Page 126 - สถานภาพการชะล้างพังทลายของดินในประเทศไทย Status of Soil Erosion in Thailand
P. 126
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
116
มาตรการอนุรักษ์วิธีพืช (vegetatitve conservation measures) เป็นวิธีการป้องกัน
การชะล้างพังทลายของดินโดยใช้การปลูกพืช เป็นการเพิ่มความหนาแน่นของพืช การคลุมดินป้องกันเม็ดฝน
กระทบผิวดิน ตลอดจนการปรับปรุงบ ารุงดินที่เป็นการลงทุนต่ า และเกษตรกรสามารถปฏิบัติเองได้ เช่น การใช้
พืชตระกูลถั่ว หญ้าเลี้ยงสัตว์ หรือหญ้าธรรมชาติ ปลูกเป็นแถบขวางความลาดเทของพื้นที่หรือปลูกคลุมดิน หรือ
การใช้ระบบการปลูกพืชแบบผสมผสาน เพื่อลดความแรงของเม็ดฝน ดักตะกอนดิน และชะลอความเร็วของน้ า
จ าเป็นต้องท าให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และปัจจัยต่าง ๆ วิธีการนี้สามารถกระท าได้ง่ายและลงทุนน้อย
มีวิธีปฏิบัติดังตารางที่ 4.3
ตารางที่ 4.3 มาตรการอนุรักษ์วิธีพืช วิธีปฏิบัติ และการใช้งาน
มำตรกำรอนุรักษ์วิธีพืช วิธีปฏิบัติ กำรใช้งำน
1) การปลูกพืชตามแนว ปลูกพืชขนานกันไปตามแนว เหมาะกับพื้นที่ที่มีความลาดชัน 2-12 เปอร์เซ็นต์
ระดับ (contour ระดับขวางความลาดเทของ มีความลาดเทสม่ าเสมอ และมีระยะความลาดเทไม่
cultivation) พื้นที่ เกิน 100 เมตร
2) การปลูกพืชคลุมดิน ปลูกพืชตระกูลหญ้าหรือพืช พืชที่ขึ้นปกคลุมผิวหน้าดินช่วยควบคุมการชะล้าง
(cover cropping) ตระกูลถั่วคลุมดิน พังทลายของดินและปรับปรุงบ ารุงดิน ช่วยป้องกัน
เม็ดฝนไม่ให้กระทบผิวดินโดยตรง ลดการชะล้าง
พังทลายของดิน
ช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน ปรับปรุงคุณสมบัติทาง
กายภาพของดิน ควบคุมวัชพืช และช่วยปรับ
สภาพแวดล้อมบริเวณปลูกพืชให้เหมาะสม
เหมาะกับพื้นที่ที่มีความลาดเทตั้งแต่ 0-35
เปอร์เซ็นต์ และเหมาะสมส าหรับปลูกคลุมดินใน
สวนไม้ผล หากพื้นที่ลาดชันสูงเกิน 20 เปอร์เซ็นต์
และเป็นดินเลว ใช้ปลูกพืชเศรษฐกิจไม่คุ้มค่า
3) การปลูกพืชหมุนเวียน ปลูกพืชตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป เพื่อหมุนเวียนการใช้ธาตุอาหารพืช ท าให้ดินมี
(crop rotation) หมุนเวียนในพื้นที่เดียวกัน อาจ ความอุดมสมบูรณ์ สามารถควบคุมการระบาดของ
ปลูกพืชเศรษฐกิจหมุนเวียนกับ โรคแมลงและวัชพืช
พืชตระกูลถั่วหรือพืชตระกูลหญ้า
เช่น ข้าวโพด-ถั่ว โดยจัดชนิดและ
เวลาปลูกพืชให้เหมาะสม
4) การปลูกพืชแซม เป็นการปลูกพืชตั้งแต่ 2 ชนิด เพื่อช่วยลดการระเหยน้ าจากผิวดินเนื่องจากมีการ
(intercropping) ขึ้นไปบนพื้นที่ในเวลาเดียวกัน เพิ่มประชากรพืชที่ปกคลุมดิน ท าให้โรคแมลงและ
โดยปลูกพืชที่2 แซมลงใน วัชพืชน้อยลง
ระหว่างแถวของพืชหลัก เช่น พืชแซมควรเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีอายุสั้นกว่าพืช
ข้าวโพดแซมถั่ว หลัก ระบบรากของพืชทั้งสองควรมีระดับที่แตก
ต่างกัน และเลือกพืชแซมที่สามารถสร้างรายได้
5) การปลูกพืชเหลื่อมฤดู ปลูกพืชต่อเนื่องคาบเกี่ยวกัน เพื่อใช้ประโยชน์ที่ดินกับพืชที่ปลูกตามมาได้อย่าง
(relay cropping) โดยการปลูกพืชที่สองระหว่าง คุ้มค่าและเพิ่มรายได้ต่อพื้นที่ให้มากขึ้น