Page 9 - นวปฏิบัติตามความสมัครใจเพื่อการจัดการดินอย่างยั่งยืน (Voluntary Guidelines for Sustainable Soil Management) : แปลจากเอกสารเผยแพร่ เรื่อง "Revised World Soil Chartar" ขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization (FAO) of the United Nations)
P. 9
Voluntary Guidelines for Sustainable Soil Management 1
1. บทนำ
แนวปฏิบัติเพื่อสนับสนุนการจัดการดินอย่างยั่งยืนโดยความสมัครใจ (Voluntary Guidelines for Sustainable
Soil Management; VGSSM) ฉบับนี้ ได้รับการพัฒนาผ่านกระบวนการแบบมีส่วนร่วมภายใต้กรอบการดำเนินงานของสมัชชา
ความร่วมมือด้านทรัพยากรดินโลก (Global Soil Partnership; GSP) โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับคำแนะนำ
ทางวิชาการและนโยบายทั่วไปเกี่ยวกับการจัดการดินอย่างยั่งยืนสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในวงกว้าง แนวปฏิบัติฉบับนี้ได้รับ
การรับรองในการประชุมสมัชชา GSP ครั้งที่ 4 (ณ กรุงโรม เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2559) ได้รับการอนุมัติในการประชุม
คณะกรรมการด้านการเกษตรของ FAO ครั้งที่ 25 (ณ กรุงโรม เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2559) และท้ายสุดได้รับการรับรองโดย
สภา FAO ในการประชุมครั้งที่ 155 (ณ กรุงโรม เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2559)
1.1 หลักการและเหตุผล
ดินเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและใช้แล้วหมดสิ้นไปไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยนับเป็นแหล่งที่ให้
ผลิตผลและการบริการที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศและการดำรงชีวิตของมนุษย์ ดินเป็นทรัพยากรพื้นฐานในการผลิตพืช
อาหาร ปศุสัตว์ เส้นใย เชื้อเพลิง รวมถึงมีหน้าที่กรองและทำความสะอาดน้ำในธรรมชาติ นอกจากนี้ดินยังเป็นแหล่งกักเก็บ
คาร์บอนที่สำคัญ โดยช่วยควบคุมการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐาน
สำหรับการควบคุมสภาพภูมิอากาศโลก ดังนั้น การจัดการดินอย่างยั่งยืนจึงถือเป็นส่วนสำคัญในการขจัดความยากจน
การพัฒนาการเกษตรและชนบท การส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหารและการปรับปรุงโภชนาการ
1,2
3
ดินเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอน ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และประมาณ 95% ของอาหารในโลกผลิตจากดิน การจัดการ
ดินอย่างยั่งยืนเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งเป็นแนวทางหลักใน
การปกป้องนิเวศบริการที่สำคัญและความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งนี้ จากมูลค่ามหาศาลของดินที่มีต่อสังคมผ่านการบริการ
ของระบบนิเวศ การจัดการดินอย่างยั่งยืนจึงเป็นแนวทางที่มั่นใจได้ว่าเมื่อดำเนินการไปแล้วจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูง
โดยสนับสนุนและเพิ่มความสามารถของนิเวศบริการ ดังนั้น การนำวิธีการจัดการดินอย่างยั่งยืนมาใช้จะสร้างประโยชน์ทาง
เศรษฐกิจและสังคมหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเกษตรกรรายย่อยและผู้ผลิตทางการเกษตรขนาดใหญ่ทั่วโลก
ซึ่งมีวิถีชีวิตเกี่ยวเนื่องกับทรัพยากรดิน
แต่อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่ระบุไว้ในรายงานสถานะของทรัพยากรดินของโลก (Status of the World’s Soil
Resources: SWSR) เมื่อเร็วๆ นี้ รวมถึงการศึกษาอื่นๆ ได้แสดงให้เห็นว่า ประมาณ 33% ของดินทั่วโลกมีความเสื่อมโทรมใน
4,5
ระดับปานกลางและสูง เนื่องจากการจัดการดินไม่มีความยั่งยืน นอกจากนี้การสูญเสียดินจากพื้นที่เพาะปลูกมีค่าประมาณ
6
75 ล้านตันต่อปี ซึ่งมีมูลค่าการสูญเสียการผลิตทางการเกษตรประมาณ 400 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี การสูญเสียนี้ลด
ความสามารถของดินในการกักเก็บและหมุนเวียนคาร์บอน ธาตุอาหาร และน้ำ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการคาดการณ์ว่าการสูญเสีย
ผลผลิตธัญพืชเนื่องจากการชะล้างพังทลายของดินจะอยู่ที่ราว 7.6 ล้านตันต่อปี
ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานภาพของดินทั่วโลกส่งผลให้เกิดการรวมตัวกันเพื่อจัดตั้ง GSP และประกาศให้
ปีพุทธศักราช 2558 เป็นปีดินสากลโดยสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (United Nations; UN) รวมทั้งรับรองกฎบัตรดินโลก
1 Carbon sequestration in dryland soils. FAO, 2004.
2 Land use, land use change, and forestry. Summary for policy-makers. IPCC, 2000 (pp. 3-4)
3
Healthy soils are the basis for healthy food production, FAO, 2015.
4 Status of the World’s Soil Resources (SWSR). Main Report. FAO and ITPS, Rome, 2015 (p. xix)
5 The state of the world’s land and water resources for food and agriculture (SOLAW). Managing systems at risk. FAO, Rome and Earthscan, London,
2011 (p. 113).
6 The value of land: Prosperous lands and positive rewards through sustainable land management. The Economics of Land Degradation (ELD)
Initiative, 2015 (p. 80).