Page 17 - ปัจจัยที่มีผลต่อความรู้ และการปฏิบัติในการใช้ปูนโดโลไมท์เพื่อปรับปรุงดินกรดพื้นที่ทำการเกษตรของหมอดินอาสาจังหวัดแม่ฮ่องสอน
P. 17
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
8
ตารางที่ 3 พื้นที่ของชนิดพืชที่ปลูกในจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ชนิดพืชที่ปลูก เนื้อที่ / ไร่
ข้าวนา 143,958
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 53,817
ถั่วเหลือง 26,542
กระเทียม 21,735
หอมแดง 648
ล าไย 2,889
ลิ้นจี่ 285
ส้ม 335
กาแฟ 3,269
ยางพารา 1,244
พืชอื่นๆ 48,997
รวมพื้นที่ทั้งหมดที่ท าการปลูกพืช 303,719
ที่มา : ส านักงานเศรษฐกิจการเกษตร (2556)
ดังนั้น พื้นที่ท าการเกษตร จึงจ าเป็นต้องมีการปรับปรุงบ ารุงดินอย่างสม่ าเสมอเพื่อให้ดินมีความ
เหมาะสมในการปลูกพืช และเกิดการใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างยั่งยืนโดยวิธีการปรับปรุงบ ารุงดินนั้นอาจ
ท าได้หลายวิธีการ เช่น การใช้ปุ๋ยพืชสดปรับปรุงบ ารุงดินเพื่อเพิ่มธาตุอาหารให้กับดินการใช้ปุ๋ยหมักและ
ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อปรับปรุงโครงสร้างของดินและเพิ่มธาตุอาหารให้แก่ดิน หรือการใช้วัสดุปรับปรุงค่าความ
เป็นกรดเป็นด่างของดินโดยใช้วัสดุปูนทางการเกษตร เช่น ปูนมาร์ล หินปูนบด แคลไซต์ โดโลไมท์ ปูนเผา
ปูนขาว เป็นต้น
4. การจัดการดินกรดเพื่อการปลูกพืช
ดินกรดเกือบทั้งหมดเป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติต่ า และมักมีปัญหาทางกายภาพ
และชีวภาพร่วมด้วย ดังนั้นการจัดการดินกรดจึงต้องค านึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่เป็นข้อจ ากัดเหล่านี้อย่างรอบ
ด้านโดยผสมผสานวิธีการต่างๆเข้าด้วยกันอย่างค่อยเป็นค่อยไปซึ่งสามารถก าหนดกว้าง ๆ ได้ 4 มาตรการ
คือ
4.1 ลดความเสียหายที่เกิดจากความรุนแรงของกรดในดินโดยการใช้วัสดุปูนทางการเกษตร เช่น
หินปูนบด ปูนขาว ปูนเผา ปูนโดโลไมท์ ปริมาณการใช้โดยทั่วไปประมาณ 100 – 300 กิโลกรัมต่อไร่
การเพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดินรวมทั้งการเลือกชนิดและพันธุ์พืชให้เหมาะสมในการเพาะปลูก
4.2 ปรับปรุงปริมาณธาตุอาหารพืชในดินให้พอเพียงและมีประสิทธิภาพโดยการใช้ปุ๋ยเคมีชนิด
และปริมาณที่เหมาะสมร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์เพื่อเพิ่มทั้งธาตุอาหารหลักธาตุอาหารรองและจุลธาตุ
4.3 ปรับปรุงธาตุอาหารพืชในดินให้เพียงพอและมีประสิทธิภาพโดยการจัดการผิวหน้าดินให้
เหมาะสมลดการชะละลายและการกร่อนผิวหน้าดิน ลดการพัดพาเอาธาตุอาหารพืชที่เป็นด่างออกไปจาก