Page 32 - เปรียบเทียบพันธุ์หญ้าแฝกและพืชคลุมดินต่อการฟื้นฟูและการปรับปรุงสมบัติทางกายภาพและเคมีของดิน
P. 32
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
16
3.2.2 มวลชีวภาพรากของหญาแฝกที่อายุ 24 36 และ 48 เดือน สําหรับการขุดราก
หญาแฝกดังวิธีการที่อธิบายในหัวขอการดําเนินงานวิจัย โดยนํารากหญาแฝกที่ลางน้ําจนสะอาดแลว
มาวัดความยาวและชั่งน้ําหนักสด แลวนําไปอบที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส เปนเวลา 24-72 ชั่วโมง
จนกระทั่งน้ําหนักคงที่ จากนั้นชั่งน้ําหนักแหง และนํารากที่อบแหงแลวสงวิเคราะหปริมาณธาตุอาหาร
ในหองปฏิบัติการ ไดแก ปริมาณไนโตรเจน (N) โดยวิธีการ Kjeldahl method ปริมาณฟอสฟอรัส ใช
วิธีการ Colorimetry ปริมาณโพแทสเซียม ใชวิธีการ Flame emission spectrophotometry
3.2.3 การเก็บขอมูลการเจริญเติบโตของหญาแฝก วัดความยาวใบตั้งแตโคนถึงปลาย
ใบของใบที่โตเต็มที่ ที่อายุ 24 36 และ 48 เดือน โดยเก็บตัวอยางในแถวหญาแฝกของแตละแปลง
ทดลอง ๆ ละ 3 ซ้ํา สวนการเก็บขอมูลการเจริญเติบโตของพืชคลุมดินจะเก็บชวงเวลาเดียวกับ
หญาแฝก ในพื้นที่ 1 ตารางเมตร วัดความยาวเถาของถั่วปนโต และวัดความสูงของตนถั่วเวอราโน
3.2.4 มวลชีวภาพของถั่วเวอราโน ตัดแตงกิ่งถั่วเวอราโนทุก 4 เดือน เชนเดียวกับ
หญาแฝก ระดับ 10 เซนติเมตรจากผิวดิน และบันทึกน้ําหนักมวลชีวภาพของใบทั้งแปลง แลวนําไป
คลุมดิน ทั้งนี้สุมตัวอยางใบและตนในพื้นที่ 1 ตารางเมตร ที่อายุ 24 36 และ 48 เดือน มาชั่งน้ําหนัก
สดและนํามาอบที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส เปนเวลา 24-72 ชั่วโมง จนกระทั่งน้ําหนักคงที่ จากนั้น
ชั่งน้ําหนักแหง นํามาคํานวณโดยแปลงหนวยเปนกิโลกรัมตอไร และสงวิเคราะหปริมาณธาตุอาหารใน
หองปฏิบัติการ ไดแก ปริมาณไนโตรเจน (N) โดยวิธีการ Kjeldahl method ปริมาณฟอสฟอรัส ใช
วิธีการ Colorimetry ปริมาณโพแทสเซียม ใชวิธีการ Flame emission spectrophotometry
3.2.5 มวลชีวภาพของถั่วปนโต สุมตัวอยางพืชคลุมดิน จํานวน 1 กิโลกรัม ในพื้นที่
1 ตารางเมตร ที่อายุ 24 36 และ 48 เดือน มาชั่งน้ําหนักสดและนํามาอบที่อุณหภูมิ 70 องศา
เซลเซียส เปนเวลา 24-72 ชั่วโมงจนกระทั่งน้ําหนักคงที่ จากนั้นชั่งน้ําหนักแหง นํามาคํานวณโดย
แปลงหนวยเปนกิโลกรัมตอไร และสงวิเคราะหปริมาณธาตุอาหารในหองปฏิบัติการ ไดแก ปริมาณ
ไนโตรเจน (N) โดยวิธีการ Kjeldahl method ปริมาณฟอสฟอรัสใชวิธีการ Colorimetry ปริมาณ
โพแทสเซียมใชวิธีการ Flame emission spectrophotometry
3.3 ขอมูลอื่นที่เกี่ยวของ ขอมูลอุตุนิยมวิทยาจากสถานีตรวจอากาศเกษตร อําเภอปากชอง
จังหวัดนครราชสีมา ชวงปงบประมาณ 2558–2559 เพื่อเปนขอมูลอางอิงสําหรับงานศึกษาในครั้งนี้
4. การวิเคราะหขอมูล
นําขอมูลที่ไดจากการบันทึกในแปลงทดลองมาหาคาเฉลี่ยและประเมินผลเปรียบเทียบความ
แตกตางทางสถิติในแตละวิธีการทดลองโดยการวิเคราะหความแปรปรวน (Analysis of Variance:
ANOVA) เปรียบเทียบผลความแตกตางระหวางแตละวิธีการโดยวิธีของ Duncan Multiple Range
Test (DMRT) จากนั้นเปรียบเทียบความแตกตางของคาเฉลี่ยทรีทเมนตโดยเปรียบเทียบระหวางกลุม
(Class Comparison) คือ หญาแฝก พืชคลุมดิน วิธีการควบคุม และวิเคราะหหาความสัมพันธ
ระหวางขอมูลที่เก็บบันทึกดวยคาสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ (correlation coefficient; r) โปรแกรม
STAR (Statistical Tool for Agricultural Research; STAR-2.0.1)