Page 34 - การสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลจำแนกประเภทที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ถาวรนอกเขตป่าสงวนแห่งชาติจังหวัดชัยนาท
P. 34
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
24
2) พื้นที่เกษตรกรรม (A : Agricultural land) หมำยถึง พื้นที่ที่มีกำรใช้ประโยชน์
เพื่อเกษตรกรรมและกำรเลี้ยงสัตว์ ประกอบด้วย
2.1) พื้นที่นำ (A1) หมำยถึง พื้นที่ที่ใช้ในกำรเพำะปลูกข้ำวและรวมบำงส่วนของ
ที่นำ เช่น คันนำ จอมปลวก ไม้พุ่ม และไม้ยืนต้นที่ปลูกกระจำยอยู่ในที่นำ
2.2) พืชไร่ (A2) หมำยถึง พื้นที่ที่น้ ำไม่ท่วมขัง ส่วนใหญ่เป็นดอนใช้ในกำรปลูก
พืชไร่ โดยให้รวมพื้นที่ที่มีลักษณะเตรียมแปลงเพื่อปลูก แปลงที่ปลูก และแปลงที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไป
แล้ว เช่น ข้ำวโพด อ้อย มันส ำปะหลง ฯลฯ รวมทั้งพื้นที่ปลูกพืชหมุนเวียน
2.3) ไม้ยืนต้น (A3) หมำยถึง พื้นที่ที่ใช้ในกำรปลูกไม้ยืนต้น เช่น ยำงพำรำ ยูคำลิปตัส
สัก สนประดิพัทธ์ เป็นต้น
2.4) ไม้ผล (A4) หมำยถึง พื้นที่ที่ใช้ในกำรปลูกไม้ผล เช่น ส้ม มะม่วง ล ำไย
มะพร้ำว กล้วย เป็นต้น
2.5) พืชสวน (A5) หมำยถึง พื้นที่ที่ใช้ปลูกพืชผัก เช่น แตงกวำ ผักชี ผักกำดขำว
และที่ดินที่ใช้ปลูกดอกไม้ประดับ เช่น มะลิ กล้วยไม้ เบญจมำศ พืชสมุนไพรและเกษตรผสมผสำน
2.6) ไร่หมุนเวียน (A6) หมำยถึง พื้นที่ที่ใช้ในกำรปลูกพืชไร่ โดยอำศัยกำรสลับ
พื้นที่ปลูกตำมรอบหมุนเวียนที่ก ำหนด
2.7) ทุ่งหญ้ำเลี้ยงสัตว์และโรงเรือน (A7) หมำยถึง พื้นที่ที่มีกำรปลูกหญ้ำ
ส ำหรับเลี้ยงสัตว์และสิ่งปลูกสร้ำงประเภทโรงเรือนส ำหรับเลี้ยงสัตว์บก เช่น โค กระบือ ม้ำ เป็นต้น
รวมทั้งโรงเรือนส ำหรับเลี้ยงสุกร ไก่ เป็ด เป็นต้น
2.8) พืชน้ ำ (A8) หมำยถึง พื้นที่เพำะปลูกพืชน้ ำ เช่น ผักกระเฉด ผักบุ้ง บัว กก
กระจับ แห้ว เป็นต้น
2.9) สถำนที่เพำะเลี้ยงสัตว์น้ ำ (A9) หมำยถึง พื้นที่เพำะเลี้ยงสัตว์น้ ำที่จัดสร้ำง
ขึ้นรวมทั้งโรงเรือนซึ่งอำจจะเป็นประมงน้ ำจืด หรือประมงน้ ำกร่อย หรือกำรเพำะเลี้ยงในทะเล
2.10) เกษตรผสมผสำน (A0) คือ ระบบเกษตรที่มีกำรปลูกพืชและมีกำรเลี้ยงสัตว์
หลำกหลำยชนิดในพื้นที่เดียวกัน โดยที่กิจกรรมกำรผลิตแต่ละชนิด เกื้อกูลประโยชน์ต่อกันได้อย่ำง
มีประสิทธิภำพ มีกำรใช้ทรัพยำกรที่มีอยู่ในไร่นำอย่ำงเหมำะสม เกิดประโยชน์สูงสุด มีควำมสมดุล
ต่อสิ่งแวดล้อมอย่ำงต่อเนื่อง และเกิดกำรเพิ่มพูนควำมอุดมสมบูรณ์ของทรัพยำกรธรรมชำติ
กำรเกื้อกูลระหว่ำงพืชและสัตว์ เศษซำกและผลพลอยได้จำกกำรปลูกพืชจะเป็นประโยชน์ต่อกิจกรรม
กำรเลี้ยงสัตว์ ในทำงตรงกันข้ำมผลที่ได้จำกกำรเลี้ยงสัตว์ก็จะเป็นประโยชน์ต่อพืชด้วยเช่นกัน
3) พื้นที่ป่ำไม้ (F : Forest land) หมำยถึง บริเวณที่มีต้นไม้นำนำชนิดปกคลุมมีต้นไม้
ขนำดต่ำงๆขึ้นอยู่อย่ำงหนำแน่นและกว้ำงใหญ่ นอกจำกนี้พื้นที่ที่ได้ถูกตัดฟันหรือแผ้วถำง หรือโค่นเผำ
ไม้ลงและมีเป้ำหมำยที่จะปลูกป่ำขึ้นในอนำคต หรือพื้นที่ป่ำที่ชุมชนปลูกและ/หรืออนุรักษ์ไว้ก็นับรวม
เป็นพื้นที่ป่ำไม้ด้วย ประกอบด้วย ป่ำไม่ผลัดใบ (ป่ำดิบชิ้น ป่ำดิบแล้ง ป่ำดิบเขำ ป่ำสนเขำ) ป่ำผลัดใบ
(ป่ำเบญจพรรณและป่ำเต็งรัง) ป่ำชำยเลน ป่ำพรุ ป่ำปลูก วนเกษตร และป่ำชำยหำด แต่ทั้งนี้มิได้นับ
เอำป่ำละเมำะ หรือต้นไม้สองข้ำงทำงคมนำคม หรือที่ยืนต้นอยู่ตำมหัวไร่ปลำยนำ หรือที่ขึ้นอยู่ใน
สวนสำธำรณะให้เป็นป่ำด้วย
