Page 12 - แนวทางการจัดทำแผนที่แสดงความลาดชันของพื้นที่จากข้อมูลแบบจำลองระดับสูงเชิงเลขด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์
P. 12
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
บทที่ 2
เทคโนโลยี เทคนิค วิธีการและความรู้ทางวิชาการที่เกี่ยวข้อง
2.1 เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ
ปัจจุบันเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศเข้ามามีบทบาทและมีความส าคัญในด้านการบริหารจัดการ
ของหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน และการด าเนินชีวิตประจ าวันของประชาชน โดยที่ผ่านมารัฐบาล
ได้ให้ความส าคัญในเรื่องของการพัฒนาและการน าเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศมาใช้ในการบริหารและพัฒนา
ประเทศเป็นอย่างมากและต่อเนื่องมาโดยตลอด ดังจะเห็นได้จากแผนแม่บทภูมิสารสนเทศแห่งชาติ
พ.ศ.2560-2564 ได้ก าหนดวิสัยทัศน์ด้านภูมิสารสนเทศของประเทศไว้อย่างชัดเจนคือ “โครงสร้าง
พื้นฐานทางภูมิสารสนเทศ เป็นหนึ่งในกลไกสนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน” เพื่อให้
ทุกภาคส่วนเพื่อน าไปขับเคลื่อนประเทศในทุกมิติ (คณะกรรมการภูมิสารสนเทศแห่งชาติ, 2560)
และนโยบายด้านการจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ของประเทศและระบบข้อมูลเปิด (Open Data)
ของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งจะท าให้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศจะเป็นเครื่องมือที่ส าคัญในการจัดการข้อมูล
ภูมิสารสนเทศและการประยุกต์ใช้งานในด้านต่างๆ ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยผู้ใช้งานจ าเป็นต้อง
เรียนรู้และพัฒนาทักษะเพื่อให้สามารถน าไปใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศประกอบด้วย 3 ระบบได้แก่ ระบบก าหนดต าแหน่งบนโลกด้วย
ดาวเทียม (Global Navigation Satellite System : GNSS) การส ารวจข้อมูลจากระยะไกล (Remote
Sensing: RS ) และระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information System : GIS )
2.1.1 ระบบก าหนดต าแหน่งบนโลก (Global Positioning System :GPS) เกิดขึ้นในปี
พ.ศ. 2521 (ค.ศ.1978) สร้างและควบคุมโดยกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา เพื่อวัตถุประสงค์ในการน าหน
เครื่องบิน เรือรบ และภารกิจทางทหาร โดยเปิดเสรีข้อมูลสัญญาณดาวเทียม (ranging code, satellite
ephemeris, almanac data) ในช่องสัญญาณ L1 ให้กับพลเรือนทั่วโลกใช้งาน ซึ่งในช่วงแรกได้มีการ
ผนวกเอาสิ่งที่เรียกว่า S/A (Selective availability) เข้าไปเพื่อลดคุณภาพของข้อมูลสัญญาณดาวเทียม
ซึ่งท าให้พิกัดต าแหน่งที่ได้มีความถูกต้องเพียงในระดับ 50 เมตร ต่อมาได้มีการปิด S/A ในเดือนพฤษภาคม
พ.ศ. 2543 (ค.ศ.2000) และได้มีการประกาศยกเลิก S/A อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2548 (ค.ศ.2005)
การยกเลิก S/A ในครั้งนั้น ส่งผลให้พิกัดต าแหน่งที่ได้จากการรังวัดด้วยเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม GPS
แบบมือถือ (Handheld GPS receiver) มีความถูกต้องแม่นย ามากยิ่งขึ้น โดยมีความคลาดเคลื่อนประมาณ
3 – 10 เมตร ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานโดยทั่วไปที่ไม่ต้องการความถูกต้องของต าแหน่งมากนัก ในระยะต่อมา
ประเทศในโซนยุโรป รัสเซีย ญี่ปุ่น และจีน ได้เริ่มมีการพัฒนาระบบดาวเทียมเพื่อการก าหนดต าแหน่ง
บนโลกเพิ่มมากขึ้นอีกหลายระบบ ท าให้เกิดเป็นระบบการก าหนดต าแหน่งด้วยดาวเทียมหลายระบบ
(Global Navigation Satellite System :GNSS) แต่อย่างไรก็ตามระบบก าหนดต าแหน่งบนโลก
ด้วยดาวเทียมจีพีเอส ถือได้ว่าเป็นระบบข้อมูลเปิด (Open Data) ระบบแรกของโลกที่ผู้ใช้งานสามารถ