Page 79 - การศึกษาวิเคราะห์พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากภาคใต้

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

71

4.7.5 พื้นที่ไม้ผล หรือไม้ยืนต้น
ถ้าพื้นที่ไม้ผล หรือไม้ยืนต้นถูกน้ าท่วมขัง ควรเร่งระบายน้ าออกจากพื้นที่เพื่อช่วยเหลือ
รากต้นไม้ผลที่ขาดออกซิเจน และพยายามไม่รบกวนบริเวณโคนต้นที่มีรากพืชอยู่ หลังน้ าลดและดิน

ค่อนข้างแห้งควรเก็บตัวอย่างดินส่งวิเคราะห์หาปริมาณธาตุอาหารที่มีอยู่ในดิน เพื่อวางแผนการใส่ปุ๋ย
ตามค่าวิเคราะห์ดินได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ปรับปรุงบ ารุงดินในพื้นที่สวนผลไม้ และต้องรีบ
ด าเนินการแก้ไขและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับต้นไม้ผลคือ หากพบว่าล าต้นเอนใกล้ล้ม ให้ใช้
ไม้ค้ ายันไว้ โดยไม่เข้าไปเหยียบย่ าโคนต้น จากนั้นต้องระบายน้ าที่แช่ขังบริเวณโคนต้นออกให้หมด
เมื่อดินเริ่มแห้งให้ตัดแต่งกิ่งที่ใบแก่และใบที่ไม่ได้รับแสงแดดออก ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกร่วมกับปุ๋ยเคมี

ตามค่าวิเคราะห์ดิน โดยใส่บริเวณรอบๆ ทรงพุ่ม ส าหรับปุ๋ยหมักที่ใช้ให้ขยายเชื้อจากสารเร่งซุปเปอร์ พด.3
ก่อนเพื่อป้องกันโรครากเน่าและโคนเน่า รดด้วยน้ าหมักชีวภาพที่เตรียมจากสารเร่งซุปเปอร์ พด.2
เจือจาง 1:500 เพื่อเร่งการเจริญของระบบรากพืชร่วมกับการให้ปุ๋ยทางใบเพื่อให้ต้นไม้ฟื้นตัวเร็วขึ้น

กรณีเป็นพื้นที่ปลูกยางพารา ต้องรีบท าการระบายน้ าออกอย่างเร่งด่วน ในขณะดินชื้นหรือ
ชุ่มน้ า ห้ามเดินเหยียบย่ าหรือใช้เครื่องจักรกลหนักเข้าพื้นที่เพื่อป้องกันดินแน่น เมื่อดินแห้งให้พรวนดิน
โคนต้นยางพาราที่อายุน้อย เพื่อปรับสภาพทางกายภาพของดิน โดยยางที่อายุมากไม่ควรพรวนดิน
ใต้โคนต้น เพราะจะท าให้กระทบกระเทือนต่อราก จากนั้นก็ฟื้นฟูสมบัติของดิน โดยการใส่ปุ๋ยหมักที่

ผสมกับสารเร่งซุปเปอร์ พด.3 ในกรณีที่พื้นที่อยู่ในสภาพน้ าแช่ขังเป็นเวลานานและเสี่ยงต่อการเกิดโรค
หากดินภายหลังน้ าท่วมเกิดสภาพความเป็นกรด ให้ใส่อินทรียวัตถุหรือปูน เพื่อปรับสภาพความเป็น
กรดของดิน โดยปริมาณการใช้ขึ้นอยู่กับสภาพความรุนแรงของกรดในพื้นที่นั้นๆ เป็นต้น กรณีพื้นที่
ปลูกปาล์มน้ ามัน ในขณะท่วมขังหรือดินยังมีความชื้นสูงห้ามเข้าไปเหยียบย่ าบริเวณโคนต้นปาล์ม

โดยเด็ดขาด เพราะหน้าดินที่ถูกน้ าขังจะมีโครงสร้างง่ายต่อการถูกท าลาย รวมทั้งหารทางระบบน้ า
ออกจากบริเวณโคนต้นปาล์มโดยเร็ว โดยรักษาระดับน้ าให้ต่ ากว่าบริเวณโคนต้นปาล์มน้ ามัน 50 เซนติเมตร
หลังน้ าลดและดินแห้งแล้วควรท าการขุดหรือปรับดินเหล่านั้นออกจากโคนต้นปาล์ม นอกจากนี้
ต้นปาล์มน้ ามันที่ล้มหรือเอนเอียง ควรจัดการให้ต้นปาล์มน้ ามันตั้งตรงเช่นเดิม ต้นปาล์มที่ให้ผลผลิตแล้ว

หากน้ าท่วมทะลายเป็นเวลานาน จะท าให้ทะลายเน่า เจ้าของสวนจะต้องตัดทะลายที่เน่าทิ้ง เพื่อช่วย
ให้ต้นปาล์มน้ ามันฟื้นตัวเร็วขึ้น ควรมีการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบให้บ้าง เพราะระบบรากของพืชยังไม่สามารถ
ท างานได้เต็มที่ ภายหลังน้ าท่วม มักเกิดปัญหาโรคที่เกิดจากเชื้อรา ควรใช้สารเคมีป้องกันก าจัดเชื้อราช่วย

และเมื่อดินแห้งแล้วควรมีการพรวนดิน เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้แก่พืชจะท าให้รากพืชแตกใหม่ได้ดีขึ้น
(กรมพัฒนาที่ดิน0 2557ข)
พืชที่ทนต่อสภาวะน้ าท่วมขังนานเกิน 15 วัน ได้แก่ ปาล์มน้ ามัน มะม่วงเบา ไผ่ตงลืมแล้ง มะดัน
ชมพู่มะเหมี่ยว ทุเรียนเทศ สะเดาเทียม สะเม็ด ชมพู่ทับทิมจันทร์ ผักกูด ใบเตย กล้วย มะกอกน้ า มะดัน
พุดทรา ตะเคียน ยางนา หว้า ชะมวง เหล่านี้ทนน้ าท่วมได้ ตายแล้วก็จะงอกใหม่ในบางชนิด เช่น มะระ

ขี้นก ย่านาง เตย บางชนิดมีน้ าท่วมขังแต่ยอดจมก็สามารถอยู่ได้ บางชนิดน้ าท่วมขังแค่เพียงไม่เกินส่วน
ยอดเท่านั้นและไม่เกิน 2 อาทิตย์ เช่น มะกรูด มะนาว ส่วนที่พืชที่เมื่อถูกน้ าท่วมมาก็ตายก่อนพืชชนิด
อื่น คือ ขนุน ไผ่หวาน ชะอม สะเดาทะวาย กะท้อน มันเทศ สะตอ ลูกเนียง ลูกนาง เฮลิโคเนีย ดาหลา

ตะใคร ขิง ข่า กระชาย ขมิ้น พริก มะเขือ มะนาว บวบ มะระ ถั่วฝักยาว ถั่วพู