Page 23 - การใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ในดินทรายชายทะเลเพื่อปลูกคะน้าในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
P. 23
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
12
และมีเหล็กเพียงเล็กน้อย กรดฟูลวิคเป็นตัวส าคัญในการจับตัวของอลูมินัมและเหล็ก การตกตะกอน
ของสารประกอบออร์กาโนมีทัลลิค แต่การแห้งและเปียกของดินเป็นปัจจัยหนึ่งที่ท าให้เกิดการ
ตกตะกอน ดินทรายจัดที่มีชั้นดานอินทรีย์ ลักษณะของดินทรายจะมีลักษณะเฉพาะตัวคือ ช่วงชั้นดิน
ตอนบนเป็นทรายสีขาว ถัดลงไปในระดับความลึก 60-80 เซนติเมตร พบชั้นทรายสีน้ าตาลปนแดง ซึ่ง
มีลักษณะเป็นดาน เกิดจากการสะสม หรือ ตกตะกอนของสารประกอบพวกเหล็กฮิวมัส ดินทราย
ประเภทนี้ส่วนใหญ่พบตามชายฝั่งทะเลของภาคใต้และภาคตะวันออก มีเนื้อที่ 513,928 ไร่ หรือ
ประมาณร้อยละ 0.06 ของพื้นที่ทั้งประเทศ (เอิบ, 2533)
2) ดินทรายจัดที่ไม่มีชั้นดาน เป็นดินทรายที่พบทั่ว ๆ ไปตามชายหาดหรือชายฝั่ง
ทะเล และพื้นที่เป็นทรายในภาคต่าง ๆ ดินประเภทนี้มีพื้นที่ 6,613,157 ไร่หรือประมาณร้อยละ 2.06
ของพื้นที่ทั้งประเทศ เป็นดินที่มีเกือบทุกภาคของประเทศ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ (เอิบ, 2533)
ปัญหาและข้อจ ากัดของดินทรายจัด ดินทรายจัดเป็นดินที่มีเนื้อดินเป็นทราย หรือดิน
ร่วนปนทราย เกิดเป็นชั้นหนามากกว่า 50 เซนติเมตร มีแร่ควอร์ต (quartz) เป็นส่วนประกอบส าคัญ
เนื้อดินค่อนข้างหยาบ มีสภาพเป็นกรดมีค่าค่าพีเอชของดินประมาณ 5 – 6 มีปริมาณธาตุอาหาร ตาม
ธรรมชาติต่ า ตลอดจนความสามารถในการดูดธาตุอาหารต่ า มีอินทรียวัตถุต่ ามาก ธาตุโพแทสเซียม
และฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ต่ า ความสามารถในการแลกเปลี่ยนแคตไอออนต่ ามาก เป็นเหตุให้การ
ใช้ปุ๋ยเคมีให้ผลตอบสนองต่อพืชต่ า (กรมพัฒนาที่ดิน, 2540) ดินทรายจัดในบางบริเวณจะมีชั้นดานใน
ชั้นล่าง โดยมีลักษณะเฉพาะคือ ดินบนจะเป็นดินทรายสีขาว ถัดลงไปในระดับความลึก 60-80
เซนติเมตร จะพบชั้นดานอินทรีย์ (Spodic horizon) ที่มีดินทรายสีน้ าตาลปนแดง หนามากกว่า 10
เซนติเมตร ซึ่งเกิดจากการสะสมของสารประกอบพวกเหล็ก และอินทรียวัตถุ ชั้นนี้แข็งมากจนพืชไม่
สามารถชอนไชลงไปได้ ดินประเภทนี้พบตามชายฝั่งทะเลของภาคใต้และภาคตะวันออก บริเวณที่เป็น
สันทรายเก่า ความสามารถในการอุ้มน้ าต่ า ในฤดูแล้งจะขาดน้ า ส่วนในฤดูฝนจะเกิดน้ าท่วมขัง
เนื่องจากน้ าซึมผ่านลงไปได้ช้า ทั้งนี้เนื่องจากน้ าไม่สามารถไหลผ่านชั้นดานอินทรีย์ลงไปได้ เหนือชั้น
ดานอินทรีย์มีชั้นดินที่ถูกชะล้างธาตุอาหารพืชถูกชะล้างไปมาก ดินเหล่านี้จึงมีความอุดมสมบูรณ์ต่ า
เป็นผลให้พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้
2.6 พื้นที่ได้รับผลกระทบจากเกลือ
2.6.1 ดินเค็ม
ประเทศไทยมีพื้นที่ที่ได้รับอิทธิพลจากเกลือประมาณ 19.7 ล้านไร่ โดยพบมาก
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและภาคใต้มีพื้นที่ประมาณ 17.8 ล้านไร่ (เอิบ, 2550) ซึ่ง
ดินเค็มหรือดินที่ได้รับอิทธิพลจากเกลือเป็นปัญหาส าคัญในการใช้ที่ดินและการจัดการดินในทาง
การเกษตร เนื่องจากเกลือที่พบส่วนใหญ่คือเกลือโซเดียมซึ่งเป็นสารประกอบของโซเดียมกับคลอรีน
(เอิบ, 2550) เมื่อมีมากจนเกินไปจะส่งผลท าให้เกิดความเป็นพิษแก่พืชมีผลท าให้พืชไม่สามารถ
เจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่และท าให้มีผลผลิตมีคุณภาพต่ า ปัญหาเรื่องดินเค็มไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ