Page 18 - การจัดการทรัพยากรดิน ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
P. 18

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน


            6     ก า ร จั ด ก า ร ท รั พ ย า ก ร ดิน




                       ช่วงเริ่มเพาะปลูก ควรเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมจนถึงปลายเดือนกันยายน เนื่องจากเป็นช่วงเวลา
            ที่มีปริมาณน�้าฝนเพียงพอต่อความต้องการของพืช

                       ช่วงน�้ามากเกินพอ (surplus water period) คือ ช่วงที่มีปริมาณน�้าฝนมากกว่าค่าศักย์ของ
            การระเหยน�้า (PET) อยู่ในช่วงระหว่างต้นเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนกันยายน แสดงว่าปริมาณน�้าฝนในช่วง

            ดังกล่าวเป็นช่วงที่ความสมดุลของน�้าในดินมีมากพอตามความต้องการของพืช
                       ช่วงขาดน�้า (deficit period) คือ ช่วงที่มีปริมาณฝนตกน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของค่าศักย์ของการระเหยน�้า

            (0.5PET) อยู่ในช่วงระหว่างเดือนตุลาคมจนถึงกลางเดือนเมษายนของปีถัดไป แสดงว่าปริมาณน�้าฝนในช่วง
            ดังกล่าวมีไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของพืช




            4. สภำพภูมิประเทศและสภำพทำงธรณีวิทยำ

                       สภาพภูมิประเทศของพื้นที่โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชด�าริส่วนใหญ่

            เป็นที่ดอน มีลักษณะเป็นภูเขา เนินเขาและลูกคลื่นลอนชันบริเวณตอนกลางของพื้นที่ มีความลาดชันประมาณ
            12-35 เปอร์เซ็นต์ เป็นลูกคลื่นลอนลาด ลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อยและพื้นที่ค่อนข้างราบเรียบถึงราบเรียบ
            บริเวณทางตะวันออกของพื้นที่ มีความลาดชันประมาณ 1-12 เปอร์เซ็นต์ มีความสูงจากระดับน�้าทะเลปานกลาง

            180-420 เมตร มีจุดสูงสุดจากระดับน�้าทะเลประมาณ 420 เมตร บริเวณภูไม้รวกรองลงมาคือ บริเวณตอนกลาง

            ของพื้นที่ (ทางเหนือของภูไม้รวก) สูงกว่าระดับน�้าทะเลประมาณ 397 เมตร และบริเวณภูโป่งแดง สูงจากระดับ
            น�้าทะเลประมาณ 359 เมตร ตามล�าดับ จุดต�่าสุดอยู่บริเวณห้วยตาดไฮใหญ่ตอนล่าง สูงจากระดับน�้าทะเล
            ปานกลางประมาณ 180 เมตร


                       ข้อมูลทางธรณีวิทยา (กรมทรัพยากรธรณี, 2544; 2550) ที่ส�าคัญของพื้นที่โครงการศูนย์ศึกษา
            การพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชด�าริ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยหินในกลุ่มหินตะกอน (Sedimentary rocks)

            แบ่งเป็น 4 หมวดหิน อธิบายรายละเอียด ได้ดังนี้

                      4.1 หมวดหินพระวิหำร (JKpw) ประกอบด้วย หินทราย หินทรายแป้งเนื้อแดง มีหินปูนแทรกสลับ
            เป็นชั้นบางๆ เกิดในยุคจูแรสซิก (Jurassic) มีอายุประมาณ 145-200 ล้านปี


                      4.2 หมวดหินโคกกรวด (Kkk) ประกอบด้วย หินทรายแป้งเนื้ออ่อนและหินทรายเนื้อแน่นปานกลาง
            เกิดในยุคครีเทเซียส (Cretaceous) มีอายุประมาณ 65-145 ล้านปี

                      4.3  หมวดหินภูพำน (Kpp) ประกอบด้วย หินทราย มีแนวหินกรวดมนแทรกสลับในแนวขวางและแนวดิ่ง

            เป็นชั้นบางๆ เกิดในยุคครีเทเซียส (Cretaceous) มีอายุประมาณ 65-145 ล้านปี

                        4.4  หมวดหินเสำขัว (Ksk) ประกอบด้วย หินทรายแป้งที่ไม่แข็งตัวและหินทรายปนหินกรวดมน

            เกิดในยุคครีเทเซียส (Cretaceous) มีอายุประมาณ 65-145 ล้านปี
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23