Page 8 - องค์ความรู้สู่ปีดินสากล 2558

ดินในพรุมี ๒ ชนิด ไดแก ดินอินทรีย จะมีตะกอนดินเหนียวขางลาง และมีเศษซากพืชทับถมกัน
ปริมาณมาก และเปนชั้นหนามากกวา 40 เซนติเมตร จากผิวดิน สําหรับดินเปรี้ยวจัดนั้น จะมีตะกอนดินเหนียว

อยูขางลาง และบริเวณดินของขอบพรุจะเปนทราย ซึ่งจะมีลักษณะเปนทรายจัด บางชวงมีการสะสม
ของอินทรียวัตถุทําใหเกิดชั้นดินดานเปราะ เชน ชุดดินบานทอน

การเกิดดินเปรี้ยว

การเกิดดินเปรี้ยว มีสาเหตุจากดินเลนตะกอนทะเลอยูชั้นลาง ดังแสดงในภาพที่ 9 มีสวนประกอบ
ของกํามะถันที่เรียกวาสารไพไรทในปริมาณมาก เนื่องจากน้ําทะเลมีเกลือในปริมาณมาก เมื่อดินอยูในสภาพ

น้ําขังจะมีจุลินทรียที่หายใจโดยใชออกซิเจนทําใหกลายเปนซัลไฟท เมื่อจับตัวกับเหล็กกลายเปนสารไพไรท
ซึ่งเปนสารอินทรียในปริมาณมาก สารชนิดนี้เมื่ออยูในสภาพน้ําทวมขังจะมีสภาพเปนกลาง แตเมื่อน้ําแหง
หรือมีการระบายน้ําออกทําใหออกซิเจนซึมลงในดินและจะทําปฏิกิริยากับสารไพไรทเกิดเปนกรดกํามะถัน
ดังแสดงในภาพที่ 10 และทําใหดินในพื้นที่บริเวณนั้นกลายเปนดินเปรี้ยวจัด และเมื่อดินเปยกอีกครั้ง
กรดกํามะถันก็จะกระจายไปทั่วทั้งหนาดิน และการที่ดินเกิดการเปยกสลับกับดินแหงบอยๆจะทําใหเกิดดิน

เปรี้ยวจัดที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ภาพที่ 9 การเกิดดินเปรี้ยว ภาพที่ 10 การเกิดกรดซัลฟุริค

เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว
ทรงทราบถึงปญหาดังกลาวจึงมีรับสั่ง ใหมีการ

ทดลองทําดินใหเปรี้ยวจัดโดยการระบายน้ําให
แหงและศึกษาวิธีการแกดินเปรี้ยว เพื่อนําผล
ไปแกปญหาดินเปรี้ยวใหแกราษฎรที่มีปญหา
เรื่องนี้ในเขตจังหวัดนราธิวาส โดยใหทํา

โครงการศึกษาทดลองในเวลา 2 ป และพืชที่
ทําการทดลองควรเปนขาว จึงไดมีการทดลอง
ในพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดชุดดินมูโนะ (ภาพที่ 11)
โดยแบงออกเปน 3 ระยะ ดังนี้

ภาพที่ 11 หนาตัดชุดดินมูโนะ

การพัฒนาพื้นที่พรุตามแนวพระราชดําริกรณีศึกษาโครงการพัฒนาพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดบานยูโย 5