Page 45 - แนวทางการศึกษาดินตัวแทนหลักสำหรับพัฒนาการเกษตรของประเทศไทย
P. 45

- 38 -


                                  2) ที่ราบที่เกิดจากการทับถมโดยอิทธิพลของลม (aeolian deposition landform)

                                        - ที่ราบแบบริ้วคลื่นทราย (sand ripple) เป็นสัณฐานที่มีลักษณะเป็นแนวสันเนิน
                  ขนาดเล็ก ต่อเนื่องและมีระยะห่างระหว่างสันประมาณ 2 เซนติเมตร มีทิศทางของสันเนินขวางทิศทางลม  มัก
                  พบในที่โล่งราบไม่มีสิ่งปกคลุม อนุภาคทรายสามารถถูกพัดพาไปที่อื่นได้ง่าย

                                        - สันทราย (sand dune) เป็นสันทรายที่มีสันเนินขนาดใหญ่พบมากในทะเลทราย มี
                  สัณฐานหลายแบบตามความรุนแรงของลม

                                        - Loess เป็นสัณฐานที่ประกอบด้วยอนุภาคทรายแป้ง สีคล้ํา ความหนาแน่นต่ํา
                                  3) ที่ราบที่เกิดจากการทับถมโดยอิทธิพลของธารน้ําแข็ง (glacial deposition landform)

                  ที่ราบชนิดนี้ยังไม่พบในประเทศไทย
                                        - Moraine มีการสะสมของแพเศษหินธารน้ําแข็ง

                                        - Outwast Plain ที่ราบที่ประกอบด้วยเศษหินธารน้ําแข็ง
                                        - Esker เนินขนาดใหญ่ ลักษณะนูนยาวโค้ง ประกอบด้วยกรวดท้ายธารน้ําแข็ง ที่มี

                  การจัดเรียงชั้นกรวดและทราย
                                        - Drumlin เนินกรวดบนที่ราบดินหินคละธารน้ําแข็ง

                                        - Till/Boulder clay ที่ราบดินหินคละธารน้ําแข็ง

                                  4) ที่ราบชายฝั่งทะเล (coastal plain)
                                        - หาด (beach) เป็นพื้นที่ที่อยู่ระหว่างแนวน้ําขึ้นกับแนวน้ําลง เป็นบริเวณที่มีการ

                  สะสมตะกอนขนาดใหญ่ในปัจจุบัน  ตั้งแต่ขนาดทรายไปจนถึงกรวดหรือก้อนหิน (ภาพที่ 4-16 ก)
                                        - ที่ราบลุ่มน้ําขึ้นลง (tidal flat) เป็นที่ราบที่เกิดตามชายฝั่งทะเล มีการทับถมของ
                  ตะกอนโดยอิทธิพลของน้ําขึ้น-น้ําลง โดยจะนําพาตะกอนมาทับถมบริเวณน้ําทะเลขึ้นสูงสุดและลงต่ําสุด มักเกิด

                  ในบริเวณที่เป็นอ่าวที่คลื่นไม่รุนแรงมากนักและระดับน้ําทะเลตื้น มักพบตามปากแม่น้ําในเขตร้อนและมักมีพืช
                  ป่าชายเลนพวกเสม็ดและโกงกาง สามารถจําแนกตามระดับการท่วมถึงของน้ําทะเลในปัจจุบันได้เป็น 3 ระดับ
                  คือ ที่ราบน้ําขึ้นลงที่มีน้ําทะเลขึ้นถึงเมื่อน้ําขึ้นถึงระดับน้ําสูงสุด (high-tidal flat) ระดับกลาง (Inter-tidal flat)

                  และระดับต่ําสุด (sub-tidal flat) (ภาพที่ 4-16 ข)














                  ภาพที่ 4-16  สภาพพื้นที่ของหาด (ก) และที่ราบลุ่มน้ําขึ้นลง (ข)
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50