Page 13 - แนวทางการศึกษาดินตัวแทนหลักสำหรับพัฒนาการเกษตรของประเทศไทย
P. 13
- 6 -
great groups) และประเภทของที่ดิน (land type) ผลของการสํารวจชนิดนี้โดยปกติจะใช้ในการวางแผน
ระดับภาคหรือระดับประเทศ
6. การสํารวจดินแบบหยาบมาก (exploratory survey) มาตราส่วนของแผนที่ที่ใช้สํารวจใน
สนามอยู่ระหว่าง 1:100,000-1:250,000 แผนที่ดินที่พิมพ์ออกเผยแพร่มีมาตราส่วนระหว่าง 1:250,000-
1:1,000,000 หน่วยของแผนที่ดินใช้ระดับเดียวกับการสํารวจดินแบบหยาบ การสํารวจดินระดับนี้ใช้ในการ
พิจารณาความเหมาะสมของที่ดินระดับประเทศเพื่อใช้เป็นหลักในการวางแผนการศึกษาขั้นละเอียดต่อไป
การจําแนกดิน หมายถึงการรวบรวมดินชนิดต่างๆ ที่มีลักษณะหรือคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกันตามที่
กําหนดไว้ ให้เป็นหมวดหมู่อย่างมีระเบียบ เพื่อสะดวกในการจดจําและนําไปใช้งาน โดยมีวัตถุประสงค์ คือ
1. เพื่อรวบรวมความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับลักษณะดินให้เป็นหมวดหมู่
2. เพื่อแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ของดินชนิดต่างๆ และส่งเสริมให้มีความเข้าใจ ความสัมพันธ์ของ
ดินชนิดต่างๆ มากขึ้น
3. เพื่อสามารถจดจําลักษณะต่างๆ ของดินได้ง่ายขึ้น
4. เพื่อเป็นการเรียนรู้ความสัมพันธ์ใหม่ๆ และหลักการใหม่ๆ เกี่ยวกับดิน
5. เพื่อแจกแจงชนิดของดินออกเป็นหมวดหมู่อย่างมีเหตุผล และมีประโยชน์ในการทํานาย
พฤติกรรมของดิน กําหนดลักษณะการใช้ที่ดีที่สุดของดิน คาดการณ์ผลผลิตที่จะได้จากดินแต่ละชนิด
6. เป็นหน่วยพื้นฐานในการวิจัย และถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีทางปฐพีวิทยา
การจําแนกดินแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- การจําแนกดินแบบบริสุทธิ์ (comprehensive natural หรือ Taxonomic soil classification)
เป็นการจําแนกดินโดยอาศัยลักษณะและสมบัติทางกายภาพและทางเคมีของดิน ตลอดจนสภาพแวดล้อมใน
การกําเนิดดินนั้นๆ มาเป็นบรรทัดฐาน การจําแนกดินแบบนี้นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในการสํารวจและทํา
แผนที่ดินและใช้เป็นฐานข้อมูลในการจําแนกดินแบบประยุกต์
- การจําแนกดินแบบประยุกต์ (interpretive หรือ technical soil classification) เป็นการ
จําแนกดินหรือจัดกลุ่มของดินออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อประโยชน์ในการใช้ที่ดินนั้นๆ ในแต่ละวัตถุประสงค์ โดย
อาศัยข้อมูลจากการสํารวจดิน ทําแผนที่ดินและการจําแนกดินแบบบริสุทธิ์มาเป็นบรรทัดฐานในการพิจารณา
ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นการแปลผลงานการสํารวจดิน (soil survey interpretation)
การจําแนกดินมีหลายระบบ เช่น ระบบการจําแนกดินของรัสเซีย ฝรั่งเศส อังกฤษ เบลเยี่ยม ซึ่ง
มักจะให้ความสําคัญของดินที่พบในเขตหนาว แต่ระบบที่อยู่ในความสนใจของประเทศต่างๆ ในโลก คือ ระบบ
อนุกรมวิธานดิน (soil taxonomy) ของประเทศสหรัฐอเมริกา และระบบของ FAO ซึ่งจะมีมาตราส่วนค่อนข้าง
หยาบ ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นระบบ WRB: World Reference Base for Soil Resources
งานสํารวจ จําแนก และทําแผนที่ดินได้พัฒนาระบบการจําแนกดินในประเทศไทยมาเป็นลําดับ
เริ่มแรกภายหลังจากที่มีการจัดตั้งกรมพัฒนาที่ดินขึ้น ในปี พ.ศ. 2506 ได้ใช้ระบบการจําแนกดินระบบประจํา
ชาติ (national soil classification system) ที่ Dr. R. Dudal และ Dr. F.R. Moormann ดัดแปลงมาจาก
ระบบการจําแนกดินปี 1938 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีหลักเกณฑ์ต่างๆ ใกล้เคียงกัน แต่มีการ
เปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมบ้างเพื่อให้เหมาะสมกับดินทางแถบเอเชียอาคเนย์ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2510 ได้เริ่มใช้
ระบบการจําแนกดินแบบอนุกรมวิธานดินจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากการจําแนกดินระบบอนุกรมวิธานดิน มีข้อดี
ดังนี้ (เฉลียว, 2531)

