Page 120 - แผนการใช้ที่ดินลุ่มน้ำสาขาภาคใต้ฝั่งตะวันตกตอนล่าง
P. 120
3-44
เกิดปัญหาเกี่ยวกับการชะล้างพังทลายขึ้น ทางระบายน้้านี้อาจสร้างขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงจากร่องน้้า
ธรรมชาติก็ได้
(2.8) บ่อน้้าในไร่นา (Farm pond) ช่วยในการเก็บกักน้้าที่ไหลบ่ามาตามหน้าดิน
รวมทั้งตะกอนที่ถูกชะล้างไว้เป็นช่วงๆ ไม่ให้เกิดผลเสียหายรุนแรงแก่พื้นที่เพาะปลูก ตลอดจนแหล่งน้้า
อื่นๆ นอกจากนั้นยังเป็นการเก็บกักน้้าไว้ในช่วงที่จ้าเป็นอีกด้วย
2) พื้นที่ดินตื้น มีเนื้อที่ 221,706 ไร่ หรือร้อยละ 17.26 ของพื้นที่ลุ่มน้้า สาขา เกิดจากการ
สลายตัวของหินกรวดเนื้อละเอียด ที่ส่วนใหญ่เป็นพวกหินตะกอนเนื้อหยาบ คือ หินทราย หินกรวดมน
แตกกระจัดกระจายร่วงหล่นออกมาทับถมเกะกะอยู่บริเวณเชิงเขา หรือเป็นผลจากกระบวนการทางดินที่
ท้าให้เกิดการสะสมปูนมาร์ลหรือศิลาแลงในดิน แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
(1) ดินตื้นที่มีการระบายน้้าเลว พบในบริเวณที่ราบต่้าที่มีน้้าขังในช่วงฤดูฝน แสดง
ว่าดินมีการระบายน้้าค่อนข้างเลว ขุดลงไปจากผิวดินที่ระดับความลึก 25-50 เซนติเมตร มีกรวดหรือ
ลูกรังปนอยู่ในเนื้อดินมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร ถ้าขุดลึกลงมาถัดไปจะเป็นชั้นดินที่มีศิลาแลงอ่อน
ปนทับอยู่บนชั้นหินผุ
(2) ดินตื้นปนลูกรังหรือกรวดที่มีการระบายน้้าดี และที่ดินหินโผล่ พบตามพื้นที่
ลอนลาดหรือเนินเขา ตั้งแต่บริเวณผิวดินลงไปมีลูกรังหรือหินกรวดมนปะปนอยู่ในดินมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์
โดยปริมาตร และดินประเภทนี้บางแห่งก็มีก้อนลูกรังหรือศิลาแดงโผล่กระจัดกระจายทั่วไปที่บริเวณ
ผิวดิน
(3) ดินตื้นปนหินมีการระบายน้้าดี พบตามพื้นที่ลอนลาดหรือบริเวณเนินภูเขา
ดินประเภทนี้เมื่อขุดลงไปที่ความลึกประมาณ 30-50 เซนติเมตร จะพบเศษหินแตกชิ้นน้อยใหญ่ปะปน
อยู่ในเนื้อดินมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร บางแห่งพบหินผุหรือหินแข็งปะปนอยู่กับเศษหิน
บางแห่งมีก้อนหินและหินโผล่กระจัดกระจายทั่วไปตามหน้าดิน
(4) ดินตื้นปนปูนมาร์ล พบตามพื้นที่ลาดถึงพื้นที่ลอนลาด หรือบริเวณที่ลาดเชิงเขา
เมื่อขุดลงไปในระดับความลึกที่ 20-50 เซนติเมตร จะพบสารประกอบจ้าพวกแคลเซียมหรือ
แมกนิเซียมคาร์บอเนตปนอยู่ ท้าให้ดินประเภทนี้จัดว่าเป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง แต่มีข้อเสียคือ
มีปฏิกิริยาเป็นด่าง เป็นข้อจ้ากัดต่อพืชบางชนิดที่ไวต่อความเป็นด่าง เช่น สับปะรด
ปัญหาดินตื้น เป็นดินที่ไม่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกเพราะ มีปริมาณชิ้นส่วนหยาบ
ปนอยู่ในดินมากท้าให้มีเนื้อดินน้อย มีธาตุอาหารน้อย ไม่อุ้มน้้า ชั้นล่างของดินชนิดนี้จะแน่นทึบรากพืช
ชอนไชไปได้ยาก พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างปกติควรมีการปรับปรุงระดับความอุดมสมบูรณ์ของดิน
3) พื้นที่จากสภาพการใช้ประโยชน์ที่ดิน ที่เป็นไม้พุ่มและทุ่งหญ้าตามธรรมชาติ มีเนื้อที่
10,628 ไร่ หรือร้อยละ 0.82 ของพื้นที่ลุ่มน้้าสาขา ถ้าเป็นที่สาธารณประโยชน์ ควรปรับปรุงให้เป็นทุ่งหญ้า
กองนโยบายและแผนการใช้ที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน