Page 133 - แผนการใช้ที่ดินลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำโกลก
P. 133

3-72





                  ของหนวยงานใดหนวยงานหนึ่งโดยเฉพาะ เชน ที่รกรางวางเปลา ที่ภูเขา ซึ่งการเขาครอบครอง

                  หรือเขาทําประโยชนตองไดรับอนุญาตจากอธิบดีกรมที่ดินหรือผูที่ไดรับมอบหมายเสียกอน นอกจากนี้

                  ยังไดกําหนดบทลงโทษผูฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย
                          2)  พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พุทธศักราช 2518 แกไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)

                  พุทธศักราช 2519 และแกไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พุทธศักราช 2532 เหตุผลในการประกาศใชพระราชบัญญัติ

                  ฉบับนี้คือประเทศไทยเปนประเทศเกษตรกรรม ประชากรสวนใหญมีอาชีพในการเกษตร ที่ดินจึงเปน
                  ปจจัยสําคัญและเปนรากฐานเบื้องตนของการผลิตทางเกษตรกรรม แตปจจุบันปรากฏวาเกษตรกร

                  กําลังประสบความเดือดรอนเนื่องจากตองสูญเสียสิทธิ์ในที่ดินและกลายเปนผูเชาที่ดิน ตองเสียคาเชาที่ดิน

                  ในอัตราสูงเกินสมควร ที่ดินขาดการบํารุงรักษาจึงทําใหอัตราผลิตทางเกษตรกรรมอยูในระดับต่ําเกษตรกร
                  ไมไดรับความเปนธรรมและเสียเปรียบจากระบบการเชาที่ดินและการจําหนายผลิตผลตลอดมา ซึ่งสงผล

                  ใหเกิดภาวะความยุงยากทั้งในทางเศรษฐกิจ สังคม การปกครองและการเมืองของประเทศเปนอยางมาก

                  จึงเปนความจําเปนอยางยิ่งที่รัฐจะตองดําเนินการแกไขปญหาดังกลาวโดยดวนที่สุด โดยวิธีการปฏิรูปที่ดิน
                  เพื่อชวยใหเกษตรกรมีที่ดินทํากินและใหการใชที่ดินเกิดประโยชนมากที่สุดพรอมกับการจัดระบบ

                  การผลิตและจําหนายผลิตผลเกษตรกรรมเพื่อใหความเปนธรรมแกเกษตรกร ทั้งนี้เพื่อเปนการสนอง

                  แนวนโยบายแหงรัฐในการลดความเหลื่อมล้ําในฐานะของบุคคลในทางเศรษฐกิจและสังคมตามที่ได

                  กําหนดไวในรัฐธรรมนูญ จึงจําเปนตองตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้นและกฎหมายฉบับนี้ยังไดกําหนดให
                  เกษตรกรผูที่ไดรับสิทธิ์ในที่ดินไมสามารถแบงแยกหรือโอนใหผูอื่นได ยกเวนเปนมรดกตกทอดแกทายาท

                             3)  พระราชบัญญัติการผังเมือง พุทธศักราช 2518 แกไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2531

                  (ฉบับที่50) กฎหมายฉบับนี้ไดกําหนดใหมีผังเมืองสองชนิดเพื่อประโยชนในการพัฒนาเมืองหรือชนบท คือ

                  ผังเมืองรวมและผังเมืองเฉพาะ โดยผังเมืองรวมเปนแผนสําหรับการพัฒนาทั้งเมืองและชนบทรวมกัน
                  โดยการกําหนดเขตการใชที่ดินใหแตละเขตใชประโยชนในกิจกรรมใดไดบางเพื่อใหเกิดความเหมาะสมที่สุด

                  การใชที่ดินในบริเวณที่อยูในเขตผังเมืองรวมเมื่อประกาศใชผังเมืองรวมในพื้นที่ใดแลวหากผูใดฝาฝน

                  จะมีโทษทางอาญา การจัดทําผังเมืองรวมจะตองจัดใหมีการรับฟงความคิดเห็นของประชาชนในทองถิ่น
                  ไมนอยกวา 1 ครั้ง จึงจะประกาศกฎกระทรวงใชผังเมืองนั้นได สวนผังเมืองเฉพาะมีความละเอียด

                  และจํากัดการใชที่ดินของประชาชนในทองถิ่นมากกวาขอกําหนดการใชที่ดินในผังเมืองรวม

                  ซึ่งบางครั้งอาจมีความจําเปนตองเวนคืนที่ดินหรืออสังหาริมทรัพยดวย การจัดทําผังเมืองเฉพาะ
                  ตองจัดใหมีการรับฟงความคิดเห็นของประชาชนในทองถิ่นไมนอยกวา 2 ครั้ง และดําเนินการ

                  ตราพระราชบัญญัติใชผังเมืองเฉพาะหากผูใดฝาฝนจะมีโทษทางอาญา

                             4)  พระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน พุทธศักราช 2551 เหตุผลในการประกาศใช

                  พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือเนื่องจากพระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน พุทธศักราช 2526 ไดใชบังคับมาเปน






                                                                        กองนโยบายและแผนการใชที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน
   128   129   130   131   132   133   134   135   136   137   138