Page 319 - รายงานการจัดการทรัพยากรดินเพื่อการปลูกพืชเศรษฐกิจหลักตามกลุ่มชุดดิน เล่มที่ 1 ดินบนพื้นที่ราบต่ำ

305

6.3 การปรับปรุงความอุดมสมบูรณของดิน ควรดําเนินการดังตอไปนี้

6.3.1 ใชปุยอินทรีย ไดแก ปุยคอกหรือปุยหมักอัตราประมาณ 2 ตัน/ไร หรือปลูกพืชปุยสดแลวไถ

กลบลงไปในดิน เมื่อปุยอินทรียเหลานี้สลายตัว จะปลดปลอยธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรองและจุลธาตุ

ใหแกพืชอยางชาๆ นอกจากนี้ยังชวยปรับปรุงสมบัติทางกายภาพ เคมีและชีวภาพของดินใหดีขึ้นอีกดวย

6.3.2 ปลูกพืชหมุนเวียน โดยใหมีพืชบํารุงดิน คือ พืชตระกูลถั่ว อยูในระบบการปลูกพืชหมุนเวียน
กับพืชหลัก เชน พืชไรหรือพืชผัก นอกจากนี้ยังอาจใชวิธีปลูกพืชแซม กลาวคือ ปลูกพืชตระกูลถั่วแซม

ระหวางแถวไมผลหรือไมยืนตน ซึ่งจะชวยปรับปรุงความอุดมสมบูรณของดินและกอใหเกิดรายไดเสริมดวย

7. ขอเสนอแนะ

จากการประเมินความเหมาะสมของกลุมชุดดินที่ 37 พบวามีศักยภาพคอนขางไมเหมาะสมในการ

ปลูกพืชไร พืชผักและไมยืนตน และไมเหมาะสมสําหรับทํานา เนื่องจากลักษณะเนื้อดินและสภาพพื้นที่ไม

อํานวย แตควรใชเพื่อพัฒนาเปนทุงหญาเลี้ยงสัตว หรือปลูกไมโตเร็ว เชน ยูคาลิปตัส กระถินยักษ กระถิน
เทพา ฯลฯ หากตองการใชปลูกพืชไร ควรปลูกถั่วลิสง ถั่วเขียว ถั่วพุม มันสําปะหลัง แตงโม หรือ ออย แต

ตองบํารุงดินดวยปุยอินทรียและปุยเคมีในอัตราคอนขางสูง

การใชประโยชนกลุมชุดดินนี้ ควรเริ่มจากการพัฒนาแหลงน้ําใหเพียงพอ ปรับปรุงความอุดมสมบูรณ
ของดิน แลวทําการเกษตรแบบผสมผสาน ระหวางการเลี้ยงสัตว ปลูกไมโตเร็ว พืชไร และพืชผักบางชนิด

ควบคูกันไป สําหรับการพัฒนาทุงหญาเลี้ยงสัตวนั้น ควรเปนแบบหญาผสมถั่ว พันธุหญาที่แนะนําไดแก

หญาขน หญากินนี หญาโรด หญาเนเปยลูกผสม หญาเฮมิลกินนี หญาบัฟเฟล และหญาซิกแนลเปนตน

สวนพืชตระกูลถั่วที่จะนํามาปลูกผสมกับหญา ควรเปนถั่วฮามาตา ถั่วเชอราโต ถั่วสไตโล ถั่วลาย หรือถั่วคุดซู

8. การเตรียมดินสําหรับปลูกพืชชนิดตางๆ

8.1 การเตรียมดินสําหรับปลูกพืชไร

8.1.1 ปญหาการชะลางพังทลาย

1) ใชวัสดุคลุมดิน เชน ฟางขาว หรือเศษพืชตางๆ เพื่อปองกันไมใหเม็ดฝนที่ตกลงมากระทบผิวดิน

โดยตรง

2) ไถพรวนดินและปลูกพืชไรขวางความลาดเทของพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณที่มีความลาดเทเกิน 5

เปอรเซ็นต

3) สรางสิ่งกีดขวางทิศทางการไหลของน้ําผิวดินเมื่อฝนตกหนัก เชน คันดิน รองระบายน้ํา คันเบน

น้ํา บอดักตะกอน หรือบอน้ําประจําไรนา

4) ปลูกแถบหญา เชน หญาแฝกสลับกับพืชที่ปลูกเปนแถวขวางความลาดเทของพื้นที่