Page 13 - คู่มือการสำรวจดิน
P. 13
1.2.2) การวิเคราะห (analysis) ผูแปลจะตองวิเคราะหสิ่งที่ปรากฏบนภาพถาย โดยอาศัยความสูงต่ํา
ของพื้นที่ ลักษณะภูมิสัณฐาน (Land form) ที่ตางกัน จะมีการเกิดดินที่แตกตางกันไป
1.2.3) การจําแนก (classification) แบงลักษณะที่ปรากฎบนภาพถายออกเปนหมวดหมูตามพื้น
ฐานความรูเกี่ยวกับลักษณะที่ตองการจะศึกษา
1.2.4) การอนุมาน (deduction) เปนการสรุปโดยใชเหตุผลที่มีน้ําหนักมากที่สุด เพื่อกําหนดหนวย
แผนที่ และเขียนขอบเขตหนวยแผนที่ลงบนภาพถายทางอากาศ
การแปลจะถูกตองไดเพียงใด ผูแปลสามารถจะประเมินไดโดยการตรวจสอบภาคสนาม และแกไข
หนวยตางๆ ที่กําหนดไวเพิ่มเติม เพื่อใหไดแผนที่ที่ถูกตองที่สุด (เอิบ เขียวรื่นรมย 2544 คูมือปฏิบัติการสํารวจดิน)
2) การแปลภาพถายทางอากาศ โดยใชเครื่องคอมพิวเตอร
ภาพถาย Orthophoto ไมสามารถมองสามมิติได ดังนั้นจึงจําเปนตองใชเครื่องคอมพิวเตอรในการ
แปล
2.1) ใชภาพ Orthophoto ที่มี Dem (digital elevation model) สรางภาพ 3 มิติ
2.2) ใชภาพที่มี contour 2 เมตร ซอนทับ
2.3) ตรึงภาพใหตรงกัน แลวใชหลักการแปลเชนเดียวกับ ขอ 1)
2.3.1.2 การวิเคราะหขอมูลพื้นที่
1) ถายทอดหรือซอนทับแผนที่ธรณีวิทยาลงในภาพถาย เพื่อประเมินถึงที่มาของตนกําเนิดดินใน
เบื้องตน
2) ศึกษาพื้นที่ศึกษาทั้งระบบจากแผนที่ภูมิประเทศ 1:50,000 ประกอบกับภาพถายทางอากาศ เพื่อ
ประเมินทิศทางการไหลของน้ําและการพัดพาตะกอน ประกอบกับประเมินสภาพพื้นที่โดยสังเขป
3) เสนชั้นความสูงสามารถประเมินระบบการระบายน้ําของดินอยางคราวๆ
2.3.1.3 การกําหนดจุดตรวจสอบ
นําขอบเขตที่ไดจากการแปลภาพถายในขอ 2.3.1.1 และผลการวิเคราะหขอมูลพื้นที่ในขอ 2.3.1.2
ลากขอบเขตโดยประมาณไวสําหรับเปนแนวทางในการเจาะสํารวจและตั้งสมมุติฐานถึงชนิดของดินที่จะพบในพื้นที่
นั้นแยกเปนหมวดหมูไวจากการแปลภาพถายและวิเคราะหขอมูล จากนั้นกําหนดจุดตรวจสอบที่เปนตัวแทน ความ
มากนอยของจุดตรวจสอบขึ้นอยูกับระดับของการสํารวจดินและความซับซอนของพื้นที่
7