Page 46 - การศึกษาการพัฒนาการจัดการพื้นที่ตามหลักทฤษฎีใหม่เพื่อการเกษตรในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
P. 46
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
14
สลาย ทำให้ไม่เหมาะกับการเป็นอาหารของจุลินทรีย์ แต่หากใช้ถ่านชีวภาพที่ผลิตใหม่ใส่ลงไปในดิน
อาจช่วยในการเพิ่มอาหารที่ช่วยในการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ได้ เนื่องจากในถ่านชีวภาพที่ผลิตใหม่
ยังคงมีธาตุอาหารโดยเฉพาะ แคลเซียม และโพแทสเซียม อยู่ปริมาณมาก และอาจมีน้ำมันชีวภาพหรือ
สารประกอบอินทรีย์ซึ่งจะช่วยในการเจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ได้ (Sparkes and
Stoutjesdijk, 2011)
การใส่ถ่านชีวภาพลงในดินสามารถเพิ่มการตอบสนองต่อโรค และจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นเมื่อมีใส่
ถ่านชีวภาพทำให้ค่า pH ของดินเพิ่มขึ้น (Elad et al., 2011; Novak et al., 2009) รวมทั้งกระตุ้น
ระบบความต้านทานต่อโรคของพืชด้วย (Elad et al., 2010; Graber et al., 2010) ถ่านชีวภาพ
สามารถลดการเจริญของเส้นใยเชื้อรา Botrytis cinereal และ Oidiopsis sicula ที่เป็นสาเหตุของ
โรคในมะเขือเทศ (Solanum lycopersicum L.) และพริกไทย (Capsicum annuum L.)
นอกจากนี้ ถ่านชีวภาพสามารถลดการเกิดโรคที่เกิดจากดินที่เป็นสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อ
ราได้ (Jaiswal et al., 2014) Nerome et al. (2005) พบว่า แบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคเหี่ยว (R.
solanacearum) ในมะเขือเทศลดลงเมื่อเติมถ่านชีวภาพที่ผลิตจากเศษพืช การลดการเกิดโรคโดย
การใช้ถ่านชีวภาพเกิดจากหลายกลไกดังนี้ (Hoitink and Fahy, 1986; Lehmann et al., 2011;
Noble and Coventry, 2005) องค์ประกอบทางเคมีของถ่านชีวภาพอาจมีผลทำให้ไปยับยั้งการ
เจริญเติบโตของตัวทำให้เกิดโรคโดยตรง และโครงสร้างที่มีความพรุนของถ่านชีวภาพเป็นที่อยู่อาศัย
ของจุลินทรีย์ที่ดีที่เป็นตัวยับยั้ง นอกจากนี้ ถ่านชีวภาพยังเป็นตัวกระตุ้นการเจริญเติบโตให้ธาตุอาหาร
และปรับปรุงการละลายของธาตุอาหาร และการดูดใช้ และการดูดซับของถ่านชีวภาพอาจทำให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนย้ายหรือกิจกรรมของเชื้อโรคพืชหรือดัดแปลงสัญญาณระหว่างโรคพืชและ
พืช (Lehmann et al., 2011)
มีงานวิจัยจำนวนมากที่แสดงให้เห็นผลของถ่านชีวภาพในด้านบวกต่อจุลินทรีย์เนื่องจาก
โครงสร้างมีรูพรุน มีพื้นที่จำเพาะสูง (specific surface area) และความสามารถในการดูดซับ การที่
ถ่านชีวภาพมีขนาดรูพรุนที่หลากหลายทำให้เป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ที่แตกต่างกัน (Thies et al.,
2015) ซึ่ง Warnock et al. (2007) ได้รายงานว่า รูพรุนของถ่านชีวภาพเปรียบเสมือนเป็นพื้นที่
ป้องกันอันตรายจากศัตรูธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยเพียงเล็กน้อยที่แสดงถึงผลของถ่าน
ชีวภาพต่อสัตว์ในดินซึ่งมีความสำคัญในกระบวนของระบบนิเวศดินและการเคลื่อนย้ายและการย่อย
สลายของถ่านชีวภาพ (Ameloot et al., 2013) บางงานวิจัยกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างถ่าน
ชีวภาพและไส้เดือนดินถึงลักษณะการกินของไส้เดือนเมื่อได้รับถ่านชีวภาพโดยตรง (Topoliantz and
Ponge, 2005) Abel et al. (2013) ได้แบ่งผลของถ่านชีวภาพต่อไส้เดือนดินออกเป็นด้านบวก
(positive) และด้านลบ (negative) เนื่องจาก 1) ผลกระทบจากลักษณะของถ่านชีวภาพ และ
2) ผลทางอ้อม เช่น pH และการหมุนเวียนน้ำของที่อยู่อาศัยของไส้เดือนดิน Tammeorg et al.
(2014) ได้ทำการทดสอบการหลีกเลี่ยงถ่านชีวภาพของไส้เดือนดินโดยพบว่า ถ่านชีวภาพจากไม้
เนื้ออ่อนมีผลทำให้ไส้เดือนดินหลีกเลี่ยงเมื่อ 14 วัน ใน Hagner et al. (2016) พบว่าไส้เดือนดินมีการ