Page 48 - การศึกษาการพัฒนาการจัดการพื้นที่ตามหลักทฤษฎีใหม่เพื่อการเกษตรในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
P. 48
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
16
โดยแบบจำลอง ทำให้ทราบระยะเวลาความต้องการน้ำของข้าวหรือช่วงเวลาที่ต้องให้น้ำเบื้องต้น
ร่วมกับรูปแบบฟาร์มแบบโคกหนองนาที่มีแหล่งน้ำสำรอง
1.4.5 ความหลากหลายทางชีวภาพ
ประเทศไทยตั้งอยู่ในภูมิอากาศเขตร้อน อีกทั้งยังมีความแตกต่างของสภาพภูมิอากาศ
และสภาพภูมิประเทศ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้ประเทศไทยมีทรัพยากรทางชีวภาพที่หลากหลายที่สุด
แห่งหนึ่งในโลก พันธุ์ไม้ที่พบในประเทศไทยนั้นมีประมาณ15,000 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 5.56 ของ
พรรณพืชที่พบในโลก (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, 2559) ความหลากหลายทาง
ชีวภาพมีส่วนสนับสนุนให้วิถีชีวิตดำเนินไปโดยสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพเป็นจุดแข็งที่
ทำให้มีความเชื่อมโยงกับวิถีชีวิต วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเป็นทุนที่มีชีวิตและเกี่ยวโยงอยู่ใน
ทรัพยากรทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ สัตว์ จุลินทรีย์ ซึ่งบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์และเป็นส่วนที่สำคัญ
ที่สุดของระบบนิเวศ (สุรางค์ เธียรหิรัญ, 2557)
ความหลากหลายทางชีวภาพซึ่งหมายถึงความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต (พืช สัตว์ จุลินทรีย์)
ที่อาศัยอยู่ในระบบนิเวศหนึ่งๆ หรือในบริเวณพื้นที่หนึ่งๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน หรือต่างเวลากัน (เช่น
ฤดูฝนและฤดูหนาว มีสิ่งมีชีวิตต่างชนิดกัน) แบ่งความหลากหลายออกได้เป็น 3 ระดับ คือ
(ก) ความหลากหลายทางพันธุกรรม คือ ความแตกต่างของพันธุกรรมในสิ่งมีชีวิตประเภท
หนึ่งๆ เช่น การมีข้าวหลากหลายสายพันธุ์ในนาข้าว
(ข) ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต คือ ความแตกต่างของสิ่งมีชีวิตทั้งชนิดและประเภท
ในพื้นที่หนึ่งๆ เช่น การมีพืชหลากหลายชนิด และสัตว์ต่างๆ ในพื้นที่การเกษตร
(ค) ความหลากหลายของระบบนิเวศ คือ ความแตกต่างของระบบนิเวศในแต่ละพื้นที่ เช่น
การที่ประเทศหรือภูมิภาคมีความแตกต่างของระบบนิเวศที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น ภาคใต้ของ
ประเทศไทยมีระบบนิเวศของพื้นที่ชุ่มน้ำ (wetland) ป่าเขตร้อน และนิเวศชายฝั่งทะเลที่หลากหลายใน
บริเวณใกล้ๆ กัน
แนวทางปฏิบัติการจัดการที่มีส่วนช่วยในการอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ
ได้แก่
1. ลดการไถพรวน และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ ทำการไถพรวนให้น้อยลงเท่าที่
จำเป็นเพราะการไถพรวนส่งผลต่อแมลงที่อยู่ผิวดิน โดยเฉพาะแมงมุมที่ทำรังอยู่บนผิวดิน และการใช้
เครื่องจักรกลการเกษตรขนาดใหญ่ ที่มีน้ำหนักมาก จะทำให้ดินแน่นแข็ง ส่งผลต่อปริมาณของตัวอ่อน
แมลงที่อาศัยอยู่ใต้ดิน การเลือกใช้ปุ๋ยอินทรีย์แบบผสมผสานและมีอินทรียวัตถุสูง
2. การเลือกใช้ปุ๋ยอินทรีย์แบบผสมผสานและมีอินทรียวัตถุสูง การใช้ปุ๋ยเคมีในอัตราสูงเป็น
พิษต่อแมลงขนาดเล็ก และส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีกระดูกสันหลังที่กินแมลงขนาดเล็ก ดังนั้นการ
เปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์จึงช่วยทำให้มีแมลงและสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เพิ่มขึ้นด้วย
3. การจัดการศัตรูพืชโดยวิธีธรรมชาติมีผลกระทบต่อแมลงแต่ละชนิดจะขึ้นอยู่กับชนิดของ
สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่เลือกใช้ เช่น แมงมุมและด้วงเต่าจะได้รับผลกระทบมากจากสารเคมีกำจัด