Page 28 - แนวทางการส่งเสริมการเกษตรที่เหมาะสมตามฐานข้อมูลแผนที่เกษตรเชิงรุก Agri-Map จังหวัดระนอง
P. 28

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

                                                               23







                       ภาครัฐ ควรให้ความรู้ความเข้าใจกับเกษตรกรโดยแนะนำว่าไม่ควรปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่น
                       หรือถ้าต้องการเปลี่ยนชนิดพืชควรเป็นพืชที่มีผลตอบแทนดีกว่า
                             3) พื้นที่ปลูกทุเรียนในพื้นที่ไม่มีความเหมาะสม (S3 และ N) และปัจจุบันเกษตรกรยังคงใช้ที่ดิน
                       ปลูกทุเรียนอยู่ ให้การช่วยเหลือเกษตรกรที่ทำกินในพื้นที่นี้ โดยสนับสนุนการปรับโครงสร้างที่ดิน

                       ปรับปรุงบำรุงดิน สนับสนุนแหล่งน้ำ หาแหล่งเงินทุน ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แนวทางการบริหารจัดการ
                       ให้แก่เกษตรกร ในกรณีที่ทุเรียนหมดอายุต้องโค่นทิ้ง เนื่องจากผลผลิตลดต่ำลง ต้องใช้ทุนเพิ่มมากขึ้น
                       ทั้งนี้เกษตรกรสามารถเลือกปลูกพืชชนิดใหม่ที่มีความเหมาะสมและให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า หรือ
                       ใช้พื้นที่ผลิตพืชอาหารเพื่อบริโภคในครัวเรือน หรือเข้าโครงการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม

                       (Zoning by Agri-Map) เป็นต้น
                             4) พื้นที่ที่มีศักยภาพหรือมีความเหมาะสมสำหรับการปลูกทุเรียน แต่ปัจจุบันเกษตรกร
                       ไม่ได้ใช้พื้นที่ปลูกทุเรียน โดยหันมาปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน เช่น ปาล์มน้ำมัน ยางพารา เป็นต้น
                       ทั้งนี้หากพืชที่ปลูกเป็นพืชไร่ในอนาคตสามารถกลับมาปลูกทุเรียนได้อีก แต่หากเป็นไม้ผลหรือ

                       ไม้ยืนต้น อาจเป็นเรื่องยาก ต้องรอจนพืชเดิมครบอายุตัดโค่น แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาต้นทุนการผลิตร่วมด้วย
                       ภาครัฐควรประชาสัมพันธ์และสร้างมาตรการจูงใจให้เกษตรกรกลับมาปลูกทุเรียนในพื้นที่นี้หรือ
                       ทำในรูปแบบสวนผสมระหว่างไม้ผลเขตร้อน เช่น เงาะ มังคุด ลองกอง เป็นต้น แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณา

                       ลักษณะทางการตลาดร่วมด้วย
                         4.4  มังคุด
                             1) พื้นที่ปลูกมังคุดที่มีความเหมาะสมสูง (S1) และปัจจุบันยังปลูกมังคุดอยู่ มีเนื้อที่ 1,125 ไร่
                       มีพื้นที่ปลูกในเขตอำเภอกระบุรี คณะอนุกรรมการพัฒนาที่ดินจังหวัดเห็นควรให้มีการเสนอแผนการใช้ที่ดิน
                       เพื่อสงวนให้เป็นพื้นที่ปลูกมังคุดที่สำคัญของจังหวัด และมีการบริหารจัดการน้ำอย่างดี รวมทั้ง

                       การจัดการดินและปุ๋ยตามมาตรฐาน ส่งเสริมให้มีการใช้ปุ๋ยให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ สนับสนุน
                       การรวมกลุ่มเป็นเกษตรแปลงใหญ่ สร้างเครือข่ายในรูปแบบของสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน
                       ปรับเปลี่ยนวิถีการผลิตสู่การผลิตผลไม้ครบวงจร เช่น บริหารจัดการผลผลิตแบบป้องกันความเสี่ยง

                       โดยใช้การตลาดนำการผลิตเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนาให้เกษตรกรเพาะปลูกตามการ
                       ปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices : GAP) เน้นการถ่ายทอดองค์ความรู้และ
                       เทคโนโลยีการพัฒนาคุณภาพผลไม้ให้สอดคล้องตามฤดูกาล การผลิตผลไม้คุณภาพตามแหล่งกำเนิด
                       ภูมิศาสตร์ (GI) และไม้ผลอัตลักษณ์ของจังหวัด

                             2) พื้นที่ปลูกมังคุดที่มีความเหมาะสมปานกลาง (S2) และปัจจุบันยังปลูกมังคุดอยู่ มีเนื้อที่
                       169 ไร่ อยู่ในเขตอำเภอกระบุรี เนื่องจากเป็นไม้ผล ซึ่งบางช่วงมีความต้องการการใช้น้ำในปริมาณมาก
                       ควรสนับสนุนด้านการบริหารจัดการน้ำ เช่น ชลประทาน แหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน ใช้ปัจจัย
                       การผลิตในอัตราและช่วงเวลาที่เหมาะสม จะสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมังคุด ภาครัฐควร

                       ให้ความรู้ความเข้าใจกับเกษตรกรโดยแนะนำว่าไม่ควรปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่น หรือถ้าต้องการ
                       เปลี่ยนชนิดพืชควรเป็นพืชที่มีผลตอบแทนดีกว่าและต้นทุนต่ำ
                             3) พื้นที่ปลูกมังคุดในพื้นที่ไม่มีความเหมาะสม (S3 และ N) และปัจจุบันเกษตรกรยังคงใช้ที่ดิน
                       ปลูกมังคุดอยู่ ให้การช่วยเหลือเกษตรกรที่ทำกินในพื้นที่นี้ โดยสนับสนุนการปรับโครงสร้างที่ดิน

                       ปรับปรุงบำรุงดิน สนับสนุนแหล่งน้ำ หาแหล่งเงินทุนประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แนวทางการบริหารจัดการ
   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33