Page 11 - แนวทางการส่งเสริมการเกษตรที่เหมาะสมตามฐานข้อมูลแผนที่เกษตรเชิงรุก Agri-Map จังหวัดบึงกาฬ
P. 11

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

                                                                4






                         1.6  พื้นที่ชลประทาน
                             จังหวัดบึงกาฬมีเนื้อที่ชลประทาน 1,390.15 ไร่ (ร้อยละ 0.05 ของพื้นที่จังหวัด) พบอยู่ใน
                       อำเภอโซ่พิสัย และมีอ่างเก็บน้ำที่สำคัญ 2 อ่าง มีศักยภาพในการเก็บกักน้ำได้รวม 4.36 ล้านลูกบาศก์เมตร
                       อยู่ในอำเภอโซ่พิสัย และอำเภอบุ่งคล้า (ตารางผนวกที่ 2 และตารางผนวกที่ 3)

                         1.7  เขตปฏิรูปที่ดิน

                             เขตปฏิรูปที่ดินในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ มีเนื้อที่ 1,264,546 ไร่ (ร้อยละ 46.99 ของพื้นที่

                       จังหวัด) โดยอำเภอที่มีพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินมากที่สุด ได้แก่ อำเภอโซ่พิสัย อำเภอเมืองบึงกาฬ และ
                       อำเภอเซกา ตามลำดับ (ตารางผนวกที่ 4)

                         1.8  การขึ้นทะเบียนเกษตรกร

                             จากฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตร จังหวัดบึงกาฬ มีการขึ้น
                       ทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ทั้งหมดในปี 2563 จำนวน 106,801 ราย รวมพื้นที่
                       1,342,728 ไร่ สำหรับพื้นที่ดำเนินการแต่ละกิจกรรมรวมกันมากกว่า 500 ไร่ มีจำนวน 12 กิจกรรม

                       และกิจกรรมที่มีพื้นที่ปลูกมากได้แก่ ยางพารา ข้าวนาปี ปาล์มน้ำมัน เป็นต้น (ตารางผนวกที่ 5)
                             ทะเบียนเกษตรกรพืชสมุนไพร จากฐานข้อมูลกลาง (Farmer one) ของสำหรับงานเศรษฐกิจ
                       การเกษตร เกษตรกรได้ขึ้นทะเบียนปลูกพืชสมุนไพรในจังหวัดบึงกาฬ พื้นที่ 50 ไร่ เกษตรกร 7 ราย มี
                       พืชสมุนไพรหลัก 3 ชนิด สมุนไพรที่มีการปลูกมาก คือ ตะไคร้หอม และพริกไทย (ตารางผนวกที่ 6)


                         1.9  ที่ตั้งโรงงานและแหล่งรับซื้อสินค้าเกษตร
                             จังหวัดบึงกาฬมีแหล่งรับซื้อสินค้าเกษตรและสหกรณ์การเกษตรที่สำคัญ จำนวน 40 แห่ง

                       และที่ตั้งโรงงานทางการเกษตร 22 แห่ง (ตารางผนวกที่ 7)

                       2. การวิเคราะห์พืชเศรษฐกิจหลัก

                         พืชเศรษฐกิจที่สำคัญพิจารณาจากพืชที่มีพื้นที่ปลูกมากและมีมูลค่าการส่งออกหรือแปรรูป
                       โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศพืชเศรษฐกิจ 13 ชนิดพืช ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา

                       ปาล์มน้ำมัน อ้อยโรงงาน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สับปะรดโรงงาน ลำไย เงาะ ทุเรียน มังคุด มะพร้าว และ
                       กาแฟ จากพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจดังกล่าว กรมพัฒนาที่ดินกำหนดระดับความเหมาะสมของพื้นที่ปลูก
                       รายจังหวัด โดยวิเคราะห์จากสภาพพื้นที่ ลักษณะของดิน ปริมาณน้ำฝน แหล่งน้ำชลประทาน ร่วมกับ
                       การจัดการพื้นที่และลักษณะรายพืช โดยแบ่งระดับความเหมาะสม เป็น 4 ระดับ ได้แก่

                         ระดับที่ 1 เป็นพื้นที่ความเหมาะสมสูง (S1) การปลูกพืชให้ผลตอบแทนสูง
                         ระดับที่ 2 เป็นพื้นที่ความเหมาะสมปานกลาง (S2) การปลูกพืชให้ผลตอบแทนสูง แต่พบข้อจำกัด
                       บางประการซึ่งสามารถบริหารจัดการได้
                         ระดับที่ 3 เป็นพื้นที่ความเหมาะสมเล็กน้อย (S3) มีข้อจำกัดบางประการของดินและน้ำ ส่งผลให้การ

                       ผลิตพืชให้ผลตอบแทนต่ำ การใช้พื้นที่ต้องใช้ต้นทุนสูงในการจัดการ และมีความเสี่ยงจาก
                       น้ำท่วมและขาดน้ำ
                         ระดับที่ 4 เป็นพื้นที่ไม่เหมาะสม (N)
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16