Page 39 - แนวทางการส่งเสริมการเกษตรที่เหมาะสมตามฐานข้อมูลแผนที่เกษตรเชิงรุก Agri-Map จังหวัดนครสวรรค์
P. 39

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

                                                               32








                       นําของเสียจากโรงงานน้ําตาลไปใชในการปรับปรุงบํารุงดินในไรออย เพื่อเพิ่มผลผลิตและลดตนทุนให
                       แกเกษตรกรชาวไรออยโดยไมมีผลเสียตอสุขภาพ สิ่งแวดลอม และชุมชนชาวไรออย
                              3) พื้นที่ปลูกออยโรงงานในพื้นที่ไมมีความเหมาะสม (S3 และ N) และปจจุบันเกษตรกร

                       ยังคงใชที่ดินปลูกออยโรงงานอยู พื้นที่ดังกลาวประสบปญหาซ้ําซาก เชน น้ําทวม ขาดน้ํา ผลผลิตต่ํา
                       ดังนั้นควรใหการชวยเหลือเกษตรกรที่เลือกปลูกพืชชนิดใหมที่ใหผลตอบแทนที่ดีกวา หรือใชพื้นที่ผลิต

                       พืชผัก บริโภคในครัวเรือน หรือเขาโครงการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning by Agri-Map)
                       เปนตนทั้งนี้ควรจัดหาตลาดใหกับเกษตรกรในการปลูกพืชผักทดแทน โดยอาจเริ่มจากตลาดชุมชน

                              4) พื้นที่ที่มีศักยภาพ หรือมีความเหมาะสมสําหรับการปลูกออยโรงงานแตเกษตรกร
                       หันมาปลูกพืชอื่นทดแทน เชน ปาลมน้ํามัน มะพราว ไมผล ไมยืนตน มันสําปะหลัง หรือพืชไรอื่นๆ

                       ควรสรางความเขาใจใหกับเกษตรกรในการบริหารจัดการพื้นที่ และการปรับปรุงบํารุงดินไมใหเสื่อมโทรม

                         4.3  มันสําปะหลัง
                              1) พื้นที่ปลูกมันสําปะหลังที่มีความเหมาะสมสูง (S1) และปจจุบันยังปลูกมันสําปะหลังอยู

                       มีเนื้อที่ 41,076 ไร มีพื้นที่ปลูกมากในเขตอําเภอแมวงก อําเภอไพศาลี และอําเภอบรรพตพิสัย ตามลําดับ
                       ซึ่งตามมาตรการยุทธศาสตรมันสําปะหลัง 2564 - 2567 เนนใหเกษตรกรเขาถึงพันธุมันสําปะหลัง
                       ตานทานโรคใบดาง (Cassava Mosaic Disease: CMD) ใหเชื้อแปงสูง และมีผลผลิตเฉลี่ยตอไรไมต่ํากวา

                       5 ตัน ภายในป 2567 นั้น โดยเนนการเพิ่มผลผลิตมันสําปะหลังและลดตนทุนการผลิตในพื้นที่ที่มี
                       ศักยภาพสูง ดังนั้นในพื้นที่ดังกลาวควรเรงหาแนวทางแกไขปญหาโรคโคนเนาหัวเนา และโรคใบดาง

                       มันสําปะหลัง อีกทั้งควรมีการสงเสริมการทําระบบน้ําหยดในพื้นที่ที่มีศักยภาพ มีการปรับปรุงบํารุงดิน
                       การใสปุยที่ถูกตองและมีประสิทธิภาพ ทําการวิเคราะหคุณภาพดินอยูเสมอ สงเสริมเกษตรกรแปรรูป

                       มันสําปะหลังเบื้องตนเพื่อเพิ่มมูลคา เชน การแปรรูปมันเสนสะอาด สรางความรวมมือระหวางเกษตรกร
                       และโรงงาน เพื่อวางแผนการขุดของเกษตรกร ประชาสัมพันธใหเกษตรกรเก็บเกี่ยวในชวงอายุ และ

                       ระยะเวลาที่เหมาะสม ใชทอนพันธุที่ตานทานโรค และใหผลผลิตสูง เขารวมโครงการระบบสงเสริม
                       การเกษตรแบบแปลงใหญ และสงเสริมใหเกษตรกรเปน Smart Farmer รวมทั้งประชาสัมพันธใหเกษตรกร
                       เก็บเกี่ยวในชวงอายุ และระยะเวลาที่เหมาะสม

                              2)  พื้นที่ปลูกมันสําปะหลังที่มีความเหมาะสมปานกลาง (S2) และปจจุบันยังปลูกมันสําปะหลัง
                       อยู มีเนื้อที่ 235,298 ไร สวนใหญอยูในเขตอําเภอแมวงก อําเภอหนองบัว และ อําเภอไพศาลี

                       เกษตรกรยังคงปลูกมันสําปะหลังไดผลดี หลายแหงประสบปญหาโครงสรางของดินหรือดินดาน
                       ทั้งนี้ควรพัฒนาศักยภาพของพื้นที่ใหมากขึ้น ในเรื่องของคุณภาพดิน และ ทําการตรวจวิเคราะห

                       คุณภาพดินอยูเสมอ สงเสริมใหมีการใสปุยตามคาวิเคราะหดิน ซึ่งอาจตองใชปุยสั่งตัด สรางความรู
                       ความเขาใจใหกับเกษตรกรในการจัดการพื้นที่ การปลูก การดูแลรักษา การปองกันโรค แมลงศัตรูพืช

                       และการเก็บเกี่ยว สงเสริมการใชทอนพันธุที่ตานทานโรค และใหผลผลิตสูง พัฒนาระบบน้ําหยดและ
                       การใชน้ําจากแหลงน้ําในพื้นที่ ใหมีการใชประโยชนกับมันสําปะหลังใหมากที่สุด สงเสริมเกษตรกร
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44