Page 21 - ผลการใช้ปุ๋ยชีวภาพและลดอัตราปุ๋ยเคมีต่อการเพิ่มผลผลิตของปาล์มนํ้ามันในพื้นที่ดินเปรี้ยวจัด จังหวัดพัทลุง
P. 21
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
17
ผลการทดลองและวิจารณ์
การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีของดิน
จากตารางที่ 1 จะเห็นได้ว่า สมบัติทางเคมีของดินที่ระดับความลึก 0-30 เซนติเมตร พบว่า ค่า
ความเป็นกรด-ด่างของดิน (pH) ของดินก่อนการทดลองเท่ากับ 3.40 หลังการทดลองค่าความเป็นกรด-ด่าง
ของดิน (pH) ของดินมีค่าเพิ่มสูงขึ้นในต้ารับที่มีการใส่ปุ๋ยอินทรีย์เมื่อเปรียบเทียบกับต้ารับที่ไม่มีการใส่ปุ๋ย
อินทรีย์ ซึ่งต้ารับที่ 6 (T ) ใส่ 30 % ปุ๋ยเคมีตามอัตราแนะน้าร่วมกับปุ๋ยชีวภาพ พด.12 อัตรา 15 กิโลกรัม
6
ต่อต้น มีค่าความเป็นกรด-ด่างของดิน (pH) ของดินมีค่าเพิ่มสูงขึ้นเท่ากับ 4.03
ความต้องการปูนของดินก่อนการทดลองเท่ากับ 2,120 กิโลกรัมต่อไร่ หลังการทดลองความ
ต้องการปูนของดินในต้ารับต้ารับที่มีการใส่ปุ๋ยอินทรีย์จะมีปริมาณลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับต้ารับที่ไม่มีการใส่
ปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งต้ารับที่ 6 (T ) ใส่ 30 % ปุ๋ยเคมีตามอัตราแนะน้าร่วมกับปุ๋ยชีวภาพ พด.12 อัตรา 15
6
กิโลกรัมต่อต้น มีความต้องการปูนน้อยที่สุด เท่ากับ 1,320 กิโลกรัมต่อไร่
ปริมาณอินทรียวัตถุของดินก่อนการทดลองเท่ากับ 21.18 เปอร์เซ็นต์ หลังการทดลองปริมาณ
อินทรียวัตถุของดินลดลงทุกต้ารับ ยกเว้นต้ารับที่ 6 (T ) ใส่ 30 % ปุ๋ยเคมีตามอัตราแนะน้าร่วมกับปุ๋ยชีวภาพ
6
พด.12 อัตรา 15 กิโลกรัมต่อต้น และต้ารับที่ 9 (T ) ที่มีปริมาณอินทรียวัตถุของดินเพิ่มขึ้นเท่ากับ 2.79
9
และ 2.31 เปอร์เซ็นต์ ตามล้าดับ
ปริมาณไนโตรเจนทั้งหมดของดินก่อนการทดลองเท่ากับ 0.11 เปอร์เซ็นต์ หลังการทดลอง
ปริมาณไนโตรเจนทั้งหมดของดินเพิ่มลดลงทุกต้ารับ ยกเว้นต้ารับที่ 6 (T ) ใส่ 30 % ปุ๋ยเคมีตามอัตราแนะน้า
6
ร่วมกับปุ๋ยชีวภาพ พด.12 อัตรา 15 กิโลกรัมต่อต้น และต้ารับที่ 9 (T ) ใส่ 40 % ปุ๋ยเคมีตามอัตราแนะน้า
9
ร่วมกับปุ๋ยชีวภาพ พด.12 อัตรา 15 กิโลกรัมต่อต้นที่มีปริมาณไนโตรเจนทั้งหมดของดินเพิ่มขึ้นเท่ากับ 0.14
และ 0.12 เปอร์เซ็นต์ ตามล้าดับ
ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์และปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ก่อนการทดลองเท่ากับ
1.67 และ 71.67 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามล้าดับ หลังการทดลองปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์และ
ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นทุกต้ารับ ซึ่งต้ารับที่ 2 (T ) วิธีเกษตรกร มีปริมาณ
2
ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์และปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์เพิ่มขึ้นมากที่สุดเท่ากับ 53.33 และ
207.67 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามล้าดับ
ปริมาณแคลเซียมและแมกนีเซียมก่อนการทดลองเท่ากับ 0.32 และ 0.37 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
ตามล้าดับ หลังการทดลองปริมาณแคลเซียมและแมกนีเซียมมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นทุกต้ารับ ซึ่งต้ารับที่ 1 (T )
1
แปลงควบคุม จะมีปริมาณปริมาณแคลเซียมและแมกนีเซียมเพิ่มขึ้นมากที่สุดเท่ากับ 2.33 และ 1.36
มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามล้าดับ