Page 9 - การประเมินคุณภาพดินเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการพื้นที่ ทางการเกษตรที่มีอัตราการชะล้างพังทลายสูงโดยใช้เทคนิคนิวเคลียร์ จังหวัดกาญจนบุรี Assessing soil quality and enhance crop productivity through agriculture management using nuclear techniques in the area of erosion in Kanchanaburi province.
P. 9
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
3
การตรวจเอกสาร
พื้นที่สูงในประเทศไทยครอบคลุมเนื้อที่ 67.22 ลานไร คิดเปนรอยละ 53 ของพื้นที่สูงใน 20 จังหวัด
ไดแก เชียงใหม เชียงราย แมฮองสอน พะเยา ลําพูน แพร นาน ลาปาง ตาก เพชรบูรณ พิษณุโลก เลย สุโขทัย
กําแพงเพชร กาญจนบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ และเพชรบุรี ซึ่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องคการมหาชน) พ.ศ. 2548 ใหความหมายของพื้นที่สูงไววา “พื้นที่ที่เปนภูเขา
หรือพื้นที่ที่มีความสูงกวาระดับน้ําทะเลหารอยเมตรขึ้นไป หรือพื้นที่ที่อยูระหวางพื้นที่สูงตามที่คณะกรรมการ
กําหนด”(สวพส., 2550) หรือเปนบริเวณพื้นที่ซึ่งมีความลาดชันโดยเฉลี่ยมากกวารอยละ 35 ซึ่งพื้นที่ตั้งชุมชนบน
พื้นที่สูงสวนใหญอยูในพื้นที่ปาตนน้ําลําธาร เขตอุทยานแหงชาติ และเขตปาสงวน ทําใหหนวยงานของรัฐเขาไป
ดาเนินงานไดไมทั่วถึง นอกจากนี้พื้นที่สูงยังคงมีปญหาการทําไรเลื่อนลอย และการบุกรุกทําลายปาอยางตอเนื่อง
ซึ่งพื้นที่ลาดชันเชิงซอนที่มีความลาดชันมากกวา 35 เปอรเซ็นต จัดเปนพื้นที่ที่ยังไมมีการศึกษา สํารวจ และ
จําแนกดิน โดยกรมพัฒนาที่ดิน จึงจัดไวใหอยูในกลุมชุดดินที่ 62 หรือที่เรียกวา พื้นที่ลาดชันเชิงซอน (SC : slope
complex) เพราะเปนสภาพพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง ซึ่งถือวายากตอการจัดการดูแลรักษาสาหรับการเกษตร และ
มักประสบปญหาของการชะลางพังทลายอยางรุนแรงนั้น จึงสงผลให ดินขาดความอุดมสมบูรณ และเมื่อไมไดรับ
การจัดการดินและที่ดินอยางสม่ําเสมอ จะทําใหเกิดความเสื่อมโทรมของที่ดินตามมา
เพราะฉะนั้น การจัดการดินและที่ดินในพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง จึงควรตองดําเนินการตามลําดับ
ขั้นตอน ประกอบดวย
1) การศึกษาสภาพภูมิสังคม สภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ศึกษาวิจัย
2) การประเมินคุณภาพของดินในพื้นที่ลาดชันที่เสี่ยงตอการชะลางพังทลายของดิน
3) การประเมินการสูญเสียหนาดิน เนื่องมาจากการชะลางพังทลายของดิน
4) การประมวลผลขอมูลขางตน เพื่อประกอบการตัดสินใจจัดทําระบบอนุรักษดินและน้ํา
5) การเปรียบเทียบมาตรการจัดการที่ดินที่เหมาะสมในพื้นที่บริเวณนั้น เพื่อสรางความตระหนักและการ
ยอมรับของเกษตรกรในพื้นที่นั้น ๆ
1. การศึกษาสภาพภูมิสังคม สภาพภูมิประเทศ และสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ศึกษาวิจัย
1.1 สภาพภูมิสังคมของพื้นที่ศึกษา
โครงการวิจัยนี้ ไดทําการศึกษา วิจัย ในพื้นที่ หมูที่ 1 ชุมชนบานทาดินแดง และชุมชนบานวังขยาย
ตั้งอยูที่ตําบลปรังเผล อําเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ประชากรที่อาศัยอยูในพื้นที่ตําบลปรังเผลทั้งหมด เปน
กลุมชาติพันธุกะเหรี่ยง มอญ พมา และสัญชาติไทย มีจํานวนทั้งสิ้น 1,751 ครัวเรือน รวมประชากรทั้งหมด
5,307 ราย ประกอบดวย เพศชาย 2,735 ราย และเพศหญิง 2,572 (,2553) ราย การนับถือศาสนาในพื้นที่
ประกอบดวย ศาสนาพุทธ และนับถือผีหรือมีความเชื่อทางธรรมชาติบางสวน สถานภาพดานการศึกษาของตําบล
ปรังเผล มีสถานศึกษาตั้งแตระดับอนุบาลถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสําหรับใหบริการดานการศึกษาแก
เยาวชนและประชาชนทั่วไป สถานภาพดานสาธารณสุขของตําบลปรังเผล มีโรงพยาบาลสงเสริมสุขภาพตําบล
ปรังเผล จํานวน 1 แหง โดยผูเขารับการรักษาสวนใหญจะเปนการเจ็บปวยดวยโรคมาลาเรีย และเนื่องจากใน
ปจจุบันที่มีการอพยพยายถิ่นฐาน ประชากรสวนใหญในพื้นที่จึงเปนชาวกระเหรี่ยง มอญ พมา และสัญชาติไทย
โดยสวนใหญมีอาชีพหาของปา และเกษตรกรรม เปนตน
จากขอมูลสํามะโนการเกษตร พ.ศ. 2556 จังหวัดกาญจนบุรี (สํานักงานสถิติแหงชาติ. 2557) รายงานวา
อําเภอสังขละบุรี มีผูถือครองที่ดินเพื่อการเกษตรทั้งสิ้น 1,685 ราย คิดเปนรอยละ 2.5 ของผูถือครองที่ดินทั้ง
จังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่เกษตรกรรมในอําเภอสังขละบุรี มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 22,019 ไร (รอยละ 1.3) โดยมีเนื้อที่ถือ
ครองเฉลี่ย 13.1 ไร และการจางงานภาคการเกษตร ประกอบดวย ลูกจางชาวไทย คิดเปนรอยละ 76.1 และ
ลูกจางตางดาว คิดเปนรอยละ 23.9 เปนตน ลักษณะการทําการเกษตรของเกษตรกรในพื้นที่อําเภอสังขละบุรีโดย