Page 62 - การประเมินคุณภาพดินเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการพื้นที่ ทางการเกษตรที่มีอัตราการชะล้างพังทลายสูงโดยใช้เทคนิคนิวเคลียร์ จังหวัดกาญจนบุรี Assessing soil quality and enhance crop productivity through agriculture management using nuclear techniques in the area of erosion in Kanchanaburi province.
P. 62
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
56
ในการเก็บขอมูลครั้งที่ 2 (เดือนมิถุนายน) พบวาปจจัยดานพื้นที่ศึกษาและปจจัยดานระดับความลึกของ
ดินที่สงผลตอปริมาณโพแทสเซียมในดิน (K) มีความแตกตางกันอยางมีนัยยะสําคัญทางสถิติ ที่ระดับความเชื่อมั่น
0.01
เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่ศึกษาทั้งสามแหลง พบวาพื้นที่ที่ไมมีการรบกวนหนาดิน มีปริมาณ K โดย
เฉลี่ย สูงที่สุด เทากับ 133.58 mg/kg รองลงมาคือ พื้นที่จัดระบบอนุรักษฯ มีปริมาณ K เทากับ 105.29 mg/kg
และ พื้นที่เพาะปลูกพืชทั่วไป มีปริมาณ K เทากับ 78.13 mg/kg ตามลําดับ
ในขณะที่ปริมาณ K ในดิน เมื่อเปรียบเทียบกับระดับความลึกของดินพบวา พื้นที่เพาะปลูกพืชทั่วไป มี
ปริมาณ K ในดินที่ไมแตกตางกัน ในขณะที่พื้นที่ที่ไมมีการรบกวนหนาดิน มีปริมาณ K สูงที่สุดที่ระดับความลึก
0-10 เซนติเมตร และจะมีปริมาณลดต่ําลงตามระดับความลึกที่เพิ่มมากขึ้น แตพื้นที่จัดระบบอนุรักษฯ มีปริมาณ
K สูงสุดที่ผิวหนาดิน แตในชั้นดินที่ลึกลงไป มีปริมาณ K ที่ไมแตกตางกัน กลาวคือ พื้นที่เพาะปลูกพืชทั่วไป มี
ปริมาณ K เทากับ 79.82 74.93 และ 79.63 mg/kg ที่ระดับความลึก 0-10 10-20 และ 20-30 เซนติเมตร
ตามลําดับ พื้นที่ที่ไมมีการรบกวนหนาดิน มีปริมาณ K เทากับ 192.21 150.50 และ 134.83 mg/kg ที่ระดับ
ความลึก 0-10 10-20 และ 20-30 เซนติเมตร ตามลําดับ และพื้นที่จัดระบบอนุรักษฯ มีปริมาณ K เทากับ
164.07 136.71 และ 133.45 mg/kg ที่ระดับความลึก 0-10 10-20 และ 20-30 เซนติเมตร ตามลําดับ