Page 58 - การประเมินคุณภาพดินเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการพื้นที่ ทางการเกษตรที่มีอัตราการชะล้างพังทลายสูงโดยใช้เทคนิคนิวเคลียร์ จังหวัดกาญจนบุรี Assessing soil quality and enhance crop productivity through agriculture management using nuclear techniques in the area of erosion in Kanchanaburi province.
P. 58
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
52
แมวาไมมีปจจัยที่ตองการศึกษาใด ๆ มีอิทธิพบตอปริมาณฟอสฟอรัสในดิน (P) ยกเวนปจจัยดาน
ประเภทความลาดชัน ในการเก็บขอมูลครั้งที่ 2 (เดือนมิถุนายน) ที่พบวามีความแตกตางกันทางสถิติอยางมี
นัยสําคัญ ที่ระดับคามเชื่อมั่น 0.01 ซึ่งสามารถวิจารณผลการทดลองได ดังตอไปนี้
ปริมาณ P ในการเก็บขอมูลครั้งที่ 3 (เดือนสิงหาคม) มีคาเฉลี่ยที่นอยที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณ
P ในการเก็บขอมูลทั้งสองครั้งกอนหนานี้ (ภาพที่ 23) ซึ่งอาจไดรับอิทธิพลมาจากปริมาณน้ําฝนที่อาจพัดพาธาตุ
P ใหออกไปจากพื้นที่ไดงาย เพราะฉะนั้นจึงสามารถกลาวไดวา ฟอสฟอรัสในดินสามารถสูญเสียออกไปจากดินได
งายมาก โดยเฉพาะในชวงฤดูฝนที่มีปริมาณฝนตกชุกที่สุด ดังนั้นจึงควรมีการจัดการที่ที่เหมาะสมและหมั่นใสปุย
ที่ใหธาตุฟอสฟอรัสตามความตองการของพืชที่ปลูก ทุก ๆ ฤดูกาลปลูก เพื่อใหมีปริมาณธาตุฟอสฟอรัสอยาง
เพียงพอ
เมื่อเปรียบเทียบปริมาณ P ระหวางพื้นที่ศึกษาทั้งสามแหลงกับประเภทความลาดชันทั้งหาบริเวณ
พบวา พื้นที่ศึกษาทั้งหมด ไมมีความแตกตางกันของปริมาณ P ในดินในแตละประเภทของความลาดชัน ซึ่ง
ปริมาณ P ที่คงที่ในทุกบริเวณความลาดชันนั้น อาจเกิดจากการใสปุย P ของเกษตรกรในทั้งรูปแบบ ชนิด และ
อัตราการใสที่ใกลเคียงกัน จึงทําใหปริมาณ P ของพื้นที่ศึกษาทั้งหมดไมแตกตางกัน และยังมีปริมาณที่สูงที่สุดใน
การเก็บขอมูลครั้งที่ 1 (เดือนเมษายน) แลวคอยๆลดนอยลงไป เพราะเกษตรกรอาจใสปุยในชวงระยะเวลา
เดียวกันดวย (ภาพที่ 24 ก) หลังจากนั้น ในการเก็บขอมูลครั้งที่ 2 (เดือนมิถุนายน) และการเก็บขอมูลครั้งที่ 3
(เดือนสิงหาคม) กลับมีแนวโนมของปริมาณ P ที่แตกตางกันในแตละพื้นที่ศึกษา กลาวคือ สิ่งปกคลุมหนาดินไมมี
ผลตอการรักษาปริมาณ P ใหคงอยูในหนาดิน เพราะพื้นที่ศึกษาที่ประกอบดวย พื้นที่ที่ไมรบกวนหนาดิน และ
พื้นที่จัดระบบอนุรักษฯ ไมมีแนวโนมที่ไปในทางเดียวกัน อีกทั้งพื้นที่เพาะปลูกพืชทั่วไป พบวามีปริมาณ P โดย
เฉลี่ย สูงกวาพื้นที่ทั้งสองเชนกัน
เพราะฉะนั้นจึงกลาวไดวา การจัดการปริมาณฟอสฟอรัสในดิน (P) ใหอยูในรูปที่เปนประโยชนของพืช
จําเปนตองใสปุย P ใหพอเหมาะกับความตองการของพืช เพราะธาตุ P มีการสูญเสียความเปนประโยชนในดินได
งาย ดังนั้น จึงควรหมั่นเพิ่มปริมาณ P ในดินใหเหมาะสมตลอดฤดูกาลเพาะปลูก