Page 35 - ผลกระทบจากการเผาตอซังและไม่ไถพรวนต่อสมบัติดินเพื่อ การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บนพื้นที่สูง จังหวัดเชียงใหม่ Effects of Burning and No-tillage on Soil Properties forMaize Production on Upland in Chiang Mai Province.
P. 35

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

                                                                                                           23

                            ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ (Available Potassium : Avail.K) ในดินหลังการทดลอง

                   พบว่าปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินมีความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง (p<0.1) โดย
                   ตำรับการทดลองที่ 1 ไม่ไถพรวนและเผาตอซังมีปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินสูงสุดที่ 297

                   มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตำรับการทดลองที่ 3 ไถพรวนดินและเผาตอซัง ตำรับการทดลองที่ 4 ไม่ไถพรวนดิน ไม่

                   เผาตอซังและปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดินมีปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินที่ 241 และ 265 มิลลิกรัมต่อ
                   กิโลกรัม ตามลำดับ และพบว่าตำรับการทดลองที่ 2 ไถพรวนดินสับกลบตอซังมีปริมาณโพแทสเซียมที่เป็น

                   ประโยชน์ในดินต่ำสุดที่ 225 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

                            ปริมาณแมกนีเซียมที่เป็นประโยชน์ (Available Magnesium : Avail.Mg) ในดินหลังการทดลอง

                   พบว่าปริมาณแมกนีเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินมีความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง (p<0.1) โดยตำรับ

                   การทดลองที่ 1 ไม่ไถพรวนและเผาตอซังมีปริมาณแมกนีเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินสูงสุดที่ 189 มิลลิกรัมต่อ
                   กิโลกรัม ตำรับการทดลองที่ 2 ไถพรวนดินสับกลบตอซัง ตำรับการทดลองที่ 4 ไม่ไถพรวนดินไม่เผาตอซังและ

                   ปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดินมีปริมาณแมกนีเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินที่ 165 และ 147 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
                   ตามลำดับ และพบว่าตำรับการทดลองที่ 3 ไถพรวนดินและเผาตอซังมีปริมาณแมกนีเซียมที่เป็นประโยชน์ใน

                   ดินต่ำสุดที่ 141 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

                            ปริมาณแคลเซียมที่เป็นประโยชน์ (Available calcium : Avail.Ca) ในดินหลังการทดลอง พบว่า

                   ปริมาณแคลเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินมีความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง (p<0.1) โดยตำรับการ

                   ทดลองที่ 1 ไม่ไถพรวนและเผาตอซัง ตำรับการทดลองที่ 2 ไถพรวนดินสับกลบตอซัง และตำรับการทดลองที่
                   3 ไถพรวนดินและเผาตอซังไม่มีความแตกต่างทางสถิติซึ่งมีปริมาณแคลเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินที่ 1,242,

                   1,246 และ 1,191 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แต่พบความแตกต่างทางสถิติในตำรับการทดลองที่ 4 ไม่ไถพรวนดิน
                   ไม่เผาตอซังและปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดินซึ่งมีปริมาณแคลเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินต่ำสุดที่ 946 มิลลิกรัมต่อ

                   กิโลกรัม

                            ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (Available Phosphorus : Avail.P) ในดินหลังการทดลอง

                   พบว่าปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินมีความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง (p<0.1) โดยตำรับ

                   การทดลองที่ 2 ไถพรวนดินสับกลบตอซังมีปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินสูงสุดที่ 28.00 มิลลิกรัม
                   ต่อกิโลกรัม ตำรับการทดลองที่ 1 ไม่ไถพรวนและเผาตอซังมีปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินรองลงมา

                   ที่ 12.67 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตำรับการทดลองที่ 3 ไถพรวนดินและเผาตอซัง และตำรับการทดลองที่ 4 ไม่

                   ไถพรวนดินไม่เผาตอซังและปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดินมีปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินใกล้เคียงกันที่
                   6.67 และ 8.00 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามลำดับ ดังตารางที่ 11


                            พบว่าตำรับการทดลองที่ 2 ไถพรวนดินสับกลบตอซังมีปริมาณอินทรียวัตถุ ปริมาณไนโตรเจน
                   ทั้งหมด ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินสูงสุด ทั้งนี้การไถพรวนดินสับกลบตอซังส่งเสริมให้เกิดการ

                   ย่อยสลายตัวของตอซังข้าวโพดและปลดปล่อยธาตุอาหารลงดิน สำหรับการเผาตอซังทำให้ปริมาณ
                   โพแทสเซียม และแมกนีเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินสูงขึ้นจากเถ้าตอซังข้าวโพด การปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดินนั้น

                   ให้ธาตุอาหารพืชในดินต่ำสุด ทั้งนี้เกิดจากการดูดใช้ธาตุอาหารของถั่วปิ่นโตเพื่อการเจริญเติบโตด้วยเช่นกัน
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40