Page 19 - การวิจัยทดสอบและเก็บข้อมูลด้านวิชาการพัฒนาที่ดินในพื้นที่โครงการพัฒนาที่ดินของมูลนิธิชัยพัฒนาบ้านเกริ่นกระถิน
P. 19

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน






                                                                                                       17


                       สามารถลดระดับน้ำใต้ดิน เช่น การปลูกในสวนมังคุดที่น้ำท่วมขังชั่วคราวจะลดการเกิดโรคยางไหล

                       เป็นต้น และควรใช้หญ้าแฝกลุ่ม
                                     2.3.3 การปลูกหญ้าแฝกควบคุม ระดับน้ำในดินบนพื้นที่ทั้งผืน ทำได้โดยปลูกหญ้า

                       แฝกแบบดำนาข้าว ระยะระหว่างต้นและระหว่างแถว 50 X 50 เซนติเมตรควรใช้หญ้าแฝกลุ่ม


                       3. โพลิเมอร์

                              โพลิเมอร์ หรือสารอุ้มน้ำ เป็นสารประเภทแป้งชนิดหนึ่งที่มีโครงสร้างซับซ้อน เป็น
                       คาร์โบไฮเดรตขนาดใหญ่ที่เกิดจากการสังเคราะห์ขึ้นทางเคมี เป็นโพลิเมอร์แซทคาไรด์ที่เรียกว่า

                       ครอส-ลิงค์  โพลีแอคริลาหมีด โคโพลีเมอร์ (Cross-linked polyacrylamide copolymer) มี 2
                       กลุ่มใหญ่ๆ คือ โพลิเมอร์ที่มีคุณสมบัติละลายน้ำได้ (water soluble polymer) และโพลิเมอร์ที่มี

                       คุณสมบัติไม่ละลายน้ำ (water insoluble polymer) โพลิเมอร์ที่อยู่ในกลุ่มไม่ละลายน้ำ มีคุณสมบัติ

                       ดูดซับน้ำได้ในปริมาณที่มาก เนื่องจากมีสาร cross linker  ก่อโยงใยเชื่อมขวาง (crosslinking)
                       ระหว่างโพลิเมอร์ที่มีโครงสร้างโมเลกุลเชิงเส้นตรง (linear polymer) ทำให้เกิดโพรงช่องว่าง

                       (cavity) ในระหว่างโมเลกุลเส้นขนานที่สามารถดูดน้ำเข้าไปเก็บกักไว้ในปริมาณมากได้ (ปิยะ. 2537)
                              ลักษณะสำคัญของโพลิเมอร์ คือ เมื่อดูดซับน้ำเข้าไปจะมีลักษณะแบบวุ้น จึงช่วยในการอุ้ม

                       น้ำได้ 300-500 เท่า ของน้ำหนักแห้ง นั่นคือ โพลิเมอร์แห้ง 1 กรัม จะดูดน้ำได้ถึงประมาณ 500

                       ลูกบาศก์เซนติเมตร เมื่อให้เวลามากพอ โดยโพลิเมอร์มีแรงยึดน้ำที่อุ้มน้ำได้ต่ำกว่าแรงดุงของรากพืช
                       รากสามารถแทงทะลุเข้าไปในโพลิเมอร์เปียกได้ง่าย  โพลิเมอร์เมื่อถูกดูดน้ำออกไปเรื่อย ๆ  จะแข็งลง

                       จนยุบเหลือขนาดเล็ก แต่เมื่อลดน้ำลงบนโพลิเมอร์ใหม่จะกลับอุ้มน้ำใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ในสภาพน้ำ
                       กระด้างมาก ความสามารถในการพองตัวของโพลิเมอร์จะน้อยลง และจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อ

                       น้ำสภาพเป็นกลาง โพลิเมอร์จะค่อยๆสลายตัวในดินชื้น โดยจุลินทรีย์รา และแบคทีเรียทั่ว ๆไป การ

                       ใช้เศษพืชและมูลสัตว์ร่วมกับโพลิเมอร์จะทำให้ย่อยสลายได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งโพลิเมอร์เมื่อผสมในกินปลูก
                       พืชน่าจะมีปัญหาน้อยในการสลายตัว เพราะสารเคมี เช่น ปุ๋ยต่าง ๆ โดยทั่งไปจะใช้ในปริมาณน้อย

                       และปุ๋ยอินทรีย์ก็ไม่มีบทบาทในการสลายโพลิเมอร์อยู่แล้ว การใช้โพลิเมอร์โดยทั่วไปจะคงสภาพอยู่
                       ในดินได้มากกว่า 1 ปี

                              สารโพลิเมอร์ผลิตจากสารหลายชนิด เช่น แป้งข้าวโพด แป้งข้าวสาลี แป้งข้าวโอ๊ด แป้งมัน

                       สำปะหลัง เซลลูโลส และเรซินสังเคราะห์ เป็นต้น วงการเกษตร มีการใช้ประโยชน์โพลิเมอร์กันอย่าง
                       กว้างขวาง เช่น ในการปลูกป่าใช้โพลิเมอร์ที่แช่น้ำค้างคืน และพองตัวเต็มที่รองก้นหลุมๆละ 1 ลิตร

                       ทำให้กล้าไม้ป่ารอดตายถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ไม้ผลทุกชนิดที่ปลูกใหม่ หรือปลูกไปแล้ว จะใช้โพลิเมอร์
                       5 กรัม หว่านกระจายที่ก้นหลุม หรือใส่บริเวณโคนต้นและกลบดิน หรืออาจใช้โพลิเมอร์เปียก 1-2

                       ลิตร/หลุมหรือต้น ต้นไม้จะรอดตายเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ (พิพัฒนะ, 2553)
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24