Page 13 - แนวทางการลดต้นทุนในการผลิตยางพาราที่ปลูกในพื้นที่เขตความเหมาะสมปานกลาง (S2) จังหวัดตราด
P. 13
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
5
หลังเก็บผลผลิตยางพาราทุกปี ตั้งแต่ปี 2559 ถึงปี 2561 เพื่อเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมี
ของดิน วิธีการเก็บ คือ ขุดหลุมเป็นรูปตัววี ลึก 30 เซนติเมตรจากผิวดิน แซะด้านข้างของหลุมหนา
ประมาณ 1.3-2.5 เซนติเมตร ขนานลงไปตามหน้าดินที่ขุดไว้ลึกถึงก้นหลุม ตักดินออกเหลือไว้แต่ดินตรง
กลางกว้างประมาณ 2.5-5.0 เซนติเมตร เก็บดินใส่ถุงพลาสติก ส่งวิเคราะห์ที่กลุ่มวิเคราะห์ดิน ส้านักงาน
พัฒนาที่ดินเขต 2 สมบัติทางเคมีของดินที่ตรวจวิเคราะห์ ได้แก่ ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน (Walkley and
Black) ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดิน (pH ดิน:น้้า=1:1) ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (วิธีการสกัด
ด้วยน้้ายา Bray II ) และปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ (วิธีการสกัดด้วยน้้ายา NH OAc pH 7.0 )
4
3.2.2 ข้อมูลพืช บันทึกข้อมูลผลผลิตพืชหรือเปอร์เซ็นต์เนื้อยางแห้ง ดังนี้
1) เก็บข้อมูลปริมาณผลผลิตและเปอร์เซ็นต์เนื้อยางแห้งของน้้ายางพาราที่กรีดได้
เดือนละ 2 ครั้ง ในช่วงเปิดกรีด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ถึงปี พ.ศ. 2561 เพื่อเปรียบเทียบเปอร์เซ็นต์เนื้อยางแห้ง
รายปี เก็บข้อมูลผลผลิตยางเดือนละ 2 ครั้ง ในรูปของยางก้อน โดยวิธีหยดกรดฟอร์มิคเข้มข้น 2
เปอร์เซ็นต์ ลงในน้้ายาง คนน้้ายางจนน้้ายางจับตัวเป็นก้อน ลดความชื้นในยางก้อนโดยตากยางก้อนทิ้งไว้
15-20 วัน ชั่งน้้าหนักยางก้อนรวมแต่ละแปลงย่อย เป็นจ้านวนกรัมต่อต้นต่อครั้งกรีด แล้วคูณด้วย 0.85
(หักความชื้น 15 เปอร์เซ็นต์ตามมาตรฐานสากล) แล้วคูณด้วยจ้านวนวันกรีดและจ้านวนต้นกรีดต่อไร่ จะ
ได้ผลผลิตเป็นกิโลกรัมต่อไร่ต่อปี (นุชนารถและคณะ, 2551)
3.2.3 ข้อมูลปุ๋ยอินทรีย์ วิเคราะห์ธาตุอาหารในปุ๋ยอินทรีย์จากหอยเชอรี่บดทั้งเปลือก
และขี้เถ้ากาบมะพร้าว เพื่อค้านวณปริมาณปุ๋ยที่ใช้ในการทดลอง และคุณสมบัติอื่นๆของปุ๋ยอินทรีย์ ได้แก่
ปริมาณไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ปริมาณอินทรียวัตถุ อัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจน ค่าการ
น้าไฟฟ้า และค่าความเป็นกรดเป็นด่าง
4. ศึกษาผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ โดยเก็บข้อมูลรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ด้าเนินการ และ
รายได้จากการจ้าหน่ายผลผลิต เพื่อวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจในแต่ละปี