Page 50 - ผลสำเร็จของการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริโครงการพัฒนาลุ่มน้ำพัฒนาคุณภาพชีวิตในพื้นที่ต้นน้ำน้ำหนาว
P. 50
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
37
มนต์ระวี และคณะ (2557) ได้ศึกษาผลของปุ๋ยชีวภาพและน้ าหมักชีวภาพต่อการ
เจริญเติบโต ผลผลิตคุณภาพกล้วยหอมทองอินทรีย์เพื่อการส่งออก ในกลุ่มชุดดินที่ 7 พบว่า วิธีการใส่ปุ๋ย
ชีวภาพ พด.12 อัตรา 5 กิโลกรัมต่อต้นร่วมกับรดน้ าหมักชีวภาพซุปเปอร์ พด.2 อัตรา 1.6 ลิตรต่อต้น
เป็นวิธีการที่ดีที่สุดต่อความอุดมสมบูรณ์ของดิน การเจริญเติบโต ผลผลิตและคุณภาพกล้วยหอมทอง
อินทรีย์ส่งออก และผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกับการปลูกกล้วยหอมทองโดยใช้ปุ๋ยเคมี
2.10 การจัดการดิน
การจัดการดินเป็นการท าให้ดินเหมาะสมกับพืชทั้งก่อนและหรือหลังปลูก การจัดการอาจเป็น
การเตรียมการก่อนปลูกหรือหลังปลูกก็ได้ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชที่ปลูก การปลูกพืชล้มลุกหรือพืชอายุสั้น
ควรใช้วิธีการเตรียมการก่อนปลูก ส่วนการปลูกไม้ผลหรือไม้ยืนต้นอาจใช้การเตรียมการก่อนปลูกหรือการ
จัดการหลังปลูกก็ได้ แต่ดีที่สุดคือควรมีการจัดการทั้งก่อนและหลังปลูกตามความเหมาะสม (นันทรัตน์,
2558)
2.9.1 ดินปัญหาที่พบในพื้นที่จัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ า (กรมพัฒนาที่ดิน, 2552)
1) ดินที่มีปฏิกิริยาเป็นกรด จะมีค่าความเป็นกรดเป็นด่าง ต่ ากว่า 7 แต่อย่างไรก็ตาม
ระดับความเป็นกรดที่มีปัญหาต่อการเพาะปลูกพืช และการเสื่อมโทรมของสภาวะแวดล้อมทางดินจะเกิด
อย่างรุนแรง เมื่อค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินต่ ากว่า 5.5 ดังนั้น ในทางวิชาการปัญหาดินกรดจึงนิยาม
ว่าเป็นดินที่มีค่าความเป็นกรดเป็นด่างต่ ากว่า 5.5 ซึ่งจากข้อมูลพื้นที่ชุดดินที่มีโอกาสจะพัฒนาเป็นดินกรด
รุนแรง พบว่า มีพื้นที่สูงถึง 143,940,000 ไร่ และยังพบว่า มีดินที่มีแนวโน้มจะเป็นกรดรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
ตามการใช้ประโยชน์ที่ดิน
สภาพปัญหาของดินกรด มีความเป็นกรดสูงเกินไป ท าให้เกิดการขาดแคลนธาตุอาหาร
ที่ส าคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช เช่น ฟอสฟอรัส และโมลิบดินัม นอกจากนี้ยังท าให้ประสิทธิภาพการใช้
ปุ๋ยเคมีต่ า ธาตุอาหารพืชถูกชะละลายออกไปจากดินได้ง่าย เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียม
สภาพที่เป็นกรดสูงยังท าให้ธาตุเหล็ก อะลูมินัม และแมงกานีส ละลายออกมาอยู่ในดินมากจนถึงระดับที่
เป็นพิษต่อพืชที่ปลูก และเกิดการระบายของเชื้อโรคพืช โดยเฉพาะเชื้อรา เช่น โรครากเน่าโคนเน่า
การปรับปรุงดินกรด ใช้วัสดุปูนเพื่อลดความเป็นกรดของดิน เพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดิน
ร่วมกับการใช้วัสดุปรับปรุงดิน วัสดุปรับสภาพดิน ปรับปรุงปริมาณธาตุอาหารพืชในดินให้พอเพียงและมี
ประสิทธิภาพ ใช้วัสดุคลุมดินเพื่อป้องกันการชะละลายและการกร่อนผิวหน้าดิน ร่วมกับระบบการปลูกพืช
หมุนเวียน รวมถึงระบบอนุรักษ์ต่างๆ ในพื้นที่ที่มีความลาดเท ลดความเป็นกรดของดินใต้ชั้นไถพรวน
โดยใช้วัสดุปรับสภาพดิน เช่น ยิปซัม หรือฟอสโฟยิปซัม ที่มีคุณสมบัติในการละลาย และสามารถแทรกซึม
ลงไปในดินล่าง ลดความเป็นพิษของอะลูมินัมได้ดี
2) ดินบนพื้นที่ลาดชันสูง หรือพื้นที่ลาดชันเชิงซ้อน หมายถึง พื้นที่ที่มีความลาดชัน
มากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ เป็นพื้นที่ที่เมื่อน าไปใช้ประโยชน์ จะเกิดปัญหาการกร่อนหรือการชะล้างพังทลาย
ของดินสูง สภาพปัญหาของพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง ถึงแม้โดยทั่วไปพื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่ที่มิสมควรท า
การเกษตร เพราะสามารถเกิดการกร่อนหรือชะล้างพังทลายของดินได้ง่าย ประกอบกับพื้นที่เหล่านี้ส่วน