Page 30 - แนวทางการจัดทำแผนที่แสดงความลาดชันของพื้นที่จากข้อมูลแบบจำลองระดับสูงเชิงเลขด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์
P. 30
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
บทที่ 3
แผนที่ ข้อมูล ฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ที่ใช้ด าเนินการ
3.1 แผนที่และข้อมูลที่น ามาใช้วิเคราะห์และจัดท าแผนที่แสดงความลาดชันของพื้นที่
แผนที่และข้อมูลทางแผนที่ที่น ามาใช้วิเคราะห์และจัดท าแผนที่แสดงความลาดชันของพื้นที่
ของแต่ละจังหวัดนั้น เป็นข้อมูลที่รวบรวมมาจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีรายละเอียด คุณลักษณะ
ข้อดี ข้อด้อยและข้อจ ากัดของการน าไปใช้งานที่แตกต่างกัน ผู้ปฏิบัติงานควรศึกษาและท าความเข้าใจข้อมูล
ที่น ามาใช้งานเสียก่อน เพื่อจะได้น าไปใช้งานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ไม่เกิดความผิดพลาดในกระบวนการ
ท างานในขั้นตอนต่างๆ ส าหรับแผนที่และข้อมูลทางแผนที่ที่น ามาใช้ด าเนินการในครั้งนี้ ได้แก่
3.1.1 ข้อมูลความสูงภูมิประเทศ เป็นข้อมูลที่ใช้แสดงลักษณะความสูงต่ าของภูมิประเทศพื้นที่ใด
พื้นที่หนึ่งโดยการบันทึกค่าระดับของกลุ่มของจุดที่มีระยะห่างระหว่างจุดคงที่ ครอบคลุมพื้นที่ดังกล่าว จัดเก็บ
ตามรูปแบบที่ก าหนดไว้ลงบนแฟ้มข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยข้อมูลความสูงภูมิประเทศเชิงเลขที่น ามาใช้ใน
โครงการนี้ เป็นข้อมูลที่จัดท าขึ้นภายใต้โครงการจัดท าแผนที่เพื่อการบริหารทรัพยากรธรรมชาติและทรัพย์สิน
ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ส าคัญที่น ามาใช้ในการวิเคราะห์และจ าแนก
ความลาดชันของพื้นที่ ได้แก่
1) ข้อมูลแบบจ าลองระดับสูงเชิงเลข (Digital Elevation Model: DEM) มาตราส่วน
1: 4,000 ซึ่งเป็นข้อมูลความสูงภูมิประเทศที่ได้จากการผลิตแบบจ าลองระดับสูงจากภาพคู่ซ้อนสามมิติที่
อยู่ติดกันที่ละคู่ภาพโดยการรังวัดด้วยเครื่องร่างแผนที่สามมิติประเภทเชิงเลข (Digital Photogrammetric
Stereo Plotter ) โดยท าการรังวัดจุดความสูงโดยวิธีสุ่มให้กระจายไปทั่วพื้นผิวภูมิประเทศโดยมีช่วงห่าง
ระหว่างจุดไม่เกิน 5 เมตร ซึ่งในพื้นที่ราบหรือมีความลาดชันน้อยกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ จุดความสูงที่ท าการ
รังวัดจะต้องมีความคลาดเคลื่อนที่ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ ไม่เกิน 2 เมตร และ พื้นที่เนินเขา
หรือพื้นที่ที่มีความลาดชันมากว่า 35 เปอร์เซ็นต์ จุดความสูงที่ท าการรังวัดจะต้องมีความคลาดเคลื่อนที่
ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ ไม่เกิน 4 เมตร ส าหรับบริเวณที่มีความสูงมีการเปลี่ยนแปลงอย่าง
ฉับพลัน หรือมีความสูงเด่นชัด เช่น ยอดเนิน ยอดเขา สันเขา ร่องน้ า สันเขื่อน ถนนที่มีการยกระดับสูงจาก
พื้นดินเดิม ฯลฯ ต้องท าการรังวัดเส้นหยุด (Break line) และจุดระดับความสูง (Spot height) ที่มีระยะทาง
ที่ปรากฏในภูมิประเทศตั้งแต่ 40 เมตรขึ้นไปในทุกๆ ระยะ 5 เมตรและ/หรือทุกจุดหักมุมของแนวเส้น
ในภาพจ าลองสามมิติ (Stereo Model) จากนั้นน าข้อมูลดังกล่าวมาด าเนินการสร้างแบบจ าลองระดับสูง
เชิงเลขในรูปแบบของราสเตอร์ โดยวิธีการประมาณค่าความสูงด้วยวิธี Inverse Distance Weighting
(IDW) ระยะห่างของราสเตอร์เท่ากับ 5 เมตร โดยจัดเก็บลงบนสื่อบันทึกข้อมูลราสเตอร์ตามมาตรฐานของ
ERDAS IMAGINE File Format (img) ในรูปแบบของจุดระดับเป็นแถวและคอลัมน์ (Row, Column)
ความละเอียดจุดภาพเท่ากับ 5 เมตร โดยแต่ละระวางมีขนาดเท่ากับ 2x2 ตารางกิโลเมตร ขอบเขตระวาง
และการก าหนดหมายเลขระวางมีความสอดคล้องและเข้ากันได้กับแผนที่ภาพถ่ายออร์โธสี มาตราส่วน
1:4,000 ดังภาพที่ 3-1