Page 113 - การวิเคราะห์ปัจจัยทางกายภาพและคุณภาพที่ดินสำหรับการวางแผนการใช้ที่ดินระดับลุ่มน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำสาขาลำเชิงไกร
P. 113
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
90
2) มันส้าปะหลัง มีเนื้อที่ตามสภาพการใช้ที่ดินจ้านวน 558,485 ไร่ เมื่อน้ามา
พิจารณา คุณภาพที่ดินตามศักยภาพชั้นความเหมาะสมของเนื้อที่ลุ่มน้้า 1,848,469 ไร่ นั้นพบว่า
มันส้าปะหลัง มีเนื้อที่ความเหมาะสมปานกลาง 1,009,278 ไร่ มีเนื้อที่เหมาะสมเล็กน้อย 32,046 ไร่
และมีเนื้อที่ไม่เหมาะสม 807,145 ไร่ จะเห็นได้ว่า หากพื้นที่ลุ่มน้้าล้าเชิงไกร มีปริมาณน้้าฝนตลอดทั้งปี
ในปริมาณ 1,200 ถึง 1,500 มิลลิเมตร จะท้าให้มันส้าปะหลัง เป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมสูง
นอกจากนี้ปริมาณเกลือที่มากเกินไปและพื้นที่ที่มีการระบายน้้าเลว มากในพื้นที่ลุ่มน้้าล้าเชิงไกร
จึงมีเนื้อที่ที่ไม่เหมาะสมที่จะปลูกมันส้าปะหลังเป็นจ้านวนมาก ดังที่กล่าวมาข้างต้น หากจะท้าการ
ส่งเสริมให้มีการปลูกมันส้าปะหลังเพิ่มขึ้นควรท้าการปรับปรุงดินให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น
และยกร่องเพื่อยกระดับการระบายน้้าให้กับมันส้าปะหลังเพราะมันส้าปะหลังมีผลตอบสนองต่อการ
ระบายน้้ามาก เมื่อมีการระบายน้้าเลวจะส่งผลต่อหัวของมันส้าปะหลังท้าให้หัวเน่า ผลผลิตของ
เกษตรกรลดลงด้วยเช่นกัน ดังภาพที่ 16
3) ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีเนื้อที่ตามสภาพการใช้ที่ดินจ้านวน 93,809 ไร่ เมื่อ
น้ามาพิจารณา คุณภาพที่ดินตามศักยภาพชั้นความเหมาะสมของเนื้อที่ลุ่มน้้า 1,848,469 ไร่ นั้น
พบว่า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีเนื้อที่ความเหมาะสมปานกลาง 1,158,365 ไร่ มีเนื้อที่เหมาะสมเล็กน้อย
480,450 ไร่ และมีเนื้อที่ไม่เหมาะสม 209,654 ไร่ จะเห็นได้ว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นอีกพืชที่มี
ข้อจ้ากัดในเรื่องของปริมาณน้้าฝน ในช่วงที่ข้าวโพดต้องการน้้าเพื่อใช้ในการเจริญเติบโต ระหว่าง
เดือนมิถุนายน ถึงสิงหาคม นั้นหากพื้นที่ของลุ่มน้้าล้าเชิงไกรมีปริมาณน้้าฝน อยู่ระหว่าง 500 ถึง 800
มิลลิเมตร จะท้าให้พืชมีเนื้อที่ความเหมาะสมสูง เพราะคุณสมบัติดินส่วนใหญ่ในพื้นที่ลุ่มน้้าล้าเชิงไกร
จะมีความเหมาะสมต่อการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อยู่แล้ว หากเพิ่มการส่งเสริมให้มีการเจาะน้้าบาดาล
เพื่อการเกษตรเพิ่มขึ้น ยิ่งจะท้าให้พืชมีผลผลิตดียิ่งขึ้น ดังภาพที่ 17
4) อ้อยโรงงาน มีเนื้อที่ตามสภาพการใช้ที่ดินจ้านวน 148,465 ไร่ เมื่อน้ามา
พิจารณา คุณภาพที่ดินตามศักยภาพชั้นความเหมาะสมของเนื้อที่ลุ่มน้้า 1,848,469 ไร่ นั้นพบว่า
อ้อยโรงงาน มีเนื้อที่ความเหมาะสมเล็กน้อย 1,362,458 ไร่ มีเนื้อที่ไม่เหมาะสม 486,011 ไร่ จะเห็น
ได้ว่าเนื้อที่อ้อยโรงงาน มีเนื้อที่ความเหมาะสมเล็กน้อยในการปลูกถึง 1,362,458 ไร่ เนื่องจากสาเหตุ
ของปริมาณน้้าฝน ที่เหมาะสมในการปลูกอ้อยโรงงาน มีระดับความเหมาะสมมากที่สุดอยู่ที่ 1,600 ถึง
2,500 มิลลิเมตร แต่ลุ่มน้้าล้าเชิงไกรมีปริมาณน้้าฝน 1,081.40 มิลลิเมตร ซึ่งอยู่ในระดับความ
เหมาะสมเล็กน้อย นอกจากนี้การมีเกลือมากเกินไปส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืชท้าให้ผลผลิตของ
การปลูกอ้อยลดลง จึงไม่เหมาะที่จะส่งเสริมให้มีการปลูกอ้อยโรงงานในพื้นที่ดังกล่าว ดังภาพที่ 18
5) ข้าวนาปีตามด้วยข้าวนาปรัง เป็นประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดินที่ใช้น้้า
ชลประทาน น้้าบาดาลเพื่อการเกษตร หรือสูบน้้าจากล้าห้วยธรรมชาติ หนองน้้าชุมชน และแหล่งน้้า
ในไร่นาที่กรมพัฒนาที่ดินได้ด้าเนินการให้เกษตรกรเพื่อใช้ ในการท้านาปรังหลังฤดูท้านาปี เมื่อน้ามา
พิจารณา คุณภาพที่ดินตามศักยภาพชั้นความเหมาะสมของเนื้อที่ลุ่มน้้า 1,848,469 ไร่ พบว่า มีเนื้อที่
เหมาะสมสูง 3,948 ไร่ มีเนื้อที่เหมาะสมปานกลาง 788,878 ไร่ มีเนื้อที่เหมาะสมเล็กน้อย9,583 ไร่
และมีเนื้อที่ไม่เหมาะสม 1,046,060 ไร่ เนื่องจากพื้นที่ลุ่มน้้าล้าเชิงไกรเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณสารละลาย
เกลือในดินมากเกินไป แพร่กระจายอยู่เกือบทั้งลุ่มน้้า หากปริมาณน้้าที่ใช้ในการท้านาปรังไม่เพียงพอ