Page 10 - การวิเคราะห์ปัจจัยทางกายภาพและคุณภาพที่ดินสำหรับการวางแผนการใช้ที่ดินระดับลุ่มน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำสาขาลำเชิงไกร
P. 10
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
3
1.8 ข้อมูลขอบเขตลุ่มน้้า
2. ข้อมูลที่รวบรวมจากภายในกรมพัฒนาที่ดิน ประกอบด้วย ข้อมูลทางด้านกายภาพ
สภาพแวดล้อม โดยมีรายละเอียดประเภทข้อมูลดังนี้
2.1 ฐานข้อมูลคุณสมบัติดินและแผนที่ดิน
2.2 แผนที่สภาพการใช้ที่ดิน
2.3 ข้อมูลขอบเขตป่าไม้ถาวร
2.4 ข้อมูลเส้นชั้นความสูง
ขั้นตอนที่ 3 การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นเพื่อจัดท้าหน่วยที่ดินและประเภทการใช้ประโยชน์
ที่ดิน โดยมีรายละเอียดต่อไปนี้
1. การวิเคราะห์สภาพภูมิอากาศ
วิเคราะห์การกระจายของน้้าฝน จ้านวนวันที่ฝนตกในแต่ละเดือน ปริมาณฝนที่ตกใน
แต่ละเดือน วิเคราะห์อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ วิเคราะห์ความสมดุลของน้้าเพื่อการเกษตรเพื่อศึกษา
ช่วงที่มีปริมาณน้้าฝนพอเพียงต่อการเพาะปลูก และระยะเวลาที่ฝนทิ้งช่วง ท้าให้สามารถประเมินได้
ว่ามีพืชชนิดใดบ้างที่เหมาะต่อ สภาพภูมิอากาศในแต่ละพื้นที่ ช่วงใดเสี่ยงต่อการปลูกพืช ท้าให้
สามารถใช้เป็นแนวทางในการเสนอแนะระบบการปลูกพืชที่เหมาะสมในพื้นที่ลุ่มน้้าได้ การวิเคราะห์
เพื่อเปรียบเทียบปริมาณน้้าฝนแต่ละช่วงปี โดยแบ่งเป็น ช่วง 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี เพื่อหาความ
แตกต่างของปริมาณน้้าฝนในแต่ละช่วงปี
2. การวิเคราะห์ทรัพยากรน้้า
วิเคราะห์แหล่งน้้าธรรมชาติทั้งน้้าผิวดินและน้้าใต้ดิน และลักษณะของที่ดินเพื่อศึกษา
ความเหมาะสมว่ามีที่ดินบริเวณใดบ้างที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาระบบชลประทานได้ (Irrigable land)
และพื้นที่ไหนที่เหมาะสมจะขุดเจาะแหล่งน้้าบาดาลได้
3. การวิเคราะห์ทรัพยากรป่าไม้
ในเบื้องต้นวิเคราะห์สถานการณ์ป่าไม้ตามกฎหมายว่าในปัจจุบันมีเนื้อที่อยู่เท่าใด
มีการบุกรุกป่าหรือไม่ เป็นเนื้อที่เท่าใด โดนบุกรุกอย่างถาวรหรือชั่วคราว พื้นที่ถูกบุกรุกเป็นพื้นที่
ต้นน้้าล้าธารหรือเป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมต่อการเกษตรหรือไม่ ส้าหรับพื้นที่นอกเขตป่ามีบริเวณ
ใดบ้างที่สามารถจะก้าหนดเพิ่มเป็นพื้นที่ป่าไม้ได้ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมต่อการเกษตร
4. การวิเคราะห์ทรัพยากรดิน
วิเคราะห์สถานภาพทรัพยากรที่ดิน ปัญหาของทรัพยากรดินในการใช้ประโยชน์โดยการ
วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับต่อจากนักส้ารวจดินในการวิเคราะห์และจัดท้าหน่วยที่ดิน (Land Unit: LU) ซึ่งจะท้า
การรวบรวมข้อมูลดินชุดต่างๆ (Soil series) หรือกลุ่มดินที่มีลักษณะทางกายภาพ และเคมีของดินคล้ายคลึงกัน
แต่จะต้องมีความแตกต่างกันอย่างเด่นชัดในแง่ของคุณภาพดิน (Land Quality: LQ) ที่จะมีผลต่อความต้องการ
ของการใช้ที่ดิน (Land use requirements) ให้เป็นหน่วยเดียวกัน ส่วนการวิเคราะห์และจัดท้าหน่วยที่ดิน
จะน้าไปพิจารณากับปัจจัยด้านอื่นๆ เช่น พื้นที่รับน้้าชลประทาน (Irrigated area) การพัฒนาที่ดิน เช่น การจัด
รูปที่ดิน การจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้้า สภาพพื้นที่ (Landform) และอิทธิพลเฉพาะที่ (Site effect) เช่น
ปัญหาดินเค็ม ดินเปรี้ยว น้้าท่วมพื้นที่ ความลึกของระดับการแช่ขังของน้้า ไม่มีการสร้างระบบป้องกันน้้าท่วม
เป็นต้น ส้าหรับแหล่งน้้าต้องไปศึกษาในภาคสนามแล้วน้ากลับมาวิเคราะห์จัดท้าเป็นหน่วยที่ดินต่อไป