Page 22 - คู่มือการวิเคราะห์ดินทางเคมีเพื่อประเมินความอุดมสมบูรณ์ของดิน
P. 22
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
14
2. เติมน้ ากลั่นลงไป 10 mL คนตัวอย่างดินและน้ าให้เข้ากันด้วยแท่งแก้ว ตั้งทิ้งไว้
อย่างน้อย 30 นาที
3. ปรับเทียบความเที่ยงตรงของเครื่อง pH meter โดยใช้สารละลายบัฟเฟอร์
มาตรฐาน pH 4, pH 7 และ pH 10
4. น าสารละลายดินไปตรวจวัดค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดิน (pH) ด้วยเครื่อง
pH meter (ควรวัดในขณะที่สารละลายขุ่น)
3.1.2 วิธีอัตรำส่วนดินต่อ 1 N KCl เท่ำกับ 1 : 1
การวิเคราะห์ความเป็นกรดเป็นด่างของดินในสารละลายโพแทสเซียมคลอไรด์ (KCl)
(อัตราส่วนดินต่อน้ า 1 : 1) จะวัดในกรณีที่ต้องการทราบว่าความเป็นกรดของดินเกิดจากอิทธิพลของ
+
อะลูมินัม (Al ) ในดินหรือไฮโดรเจนไอออน (H )
3+
วิธีกำร
วิธีการวิเคราะห์เช่นเดียวกับการวิเคราะห์ หัวข้อ 3.1.1 แต่ใช้สารละลาย
โพแทสเซียมคลอไรด์ (KCl) เข้มข้น 1 N แทนน้ ากลั่น
3.1.3 วิธีอัตรำส่วนดินต่อ 0.01 M CaCl2 เท่ำกับ 1 : 2
ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินในสารละลาย CaCl2 ในอัตราส่วน 1:2 ใช้ในการ
จ าแนกดินตามระบบอนุกรมวิธานดิน (Soil Taxonomy) ในการแบ่งระดับค่าปฏิกิริยาของดิน (acid-
nonacid reaction class)ของดินในอันดับเอ็นทิซอลส์ (Entisols) และอินเซปทิซอลส์ (Inceptisols)
ดังนี้
1. Acid class ได้แก่ ดินที่มีค่า pH ใน 0.01 M CaCl2 (1:2) น้อยกว่า 5.0 หรือ
ประมาณ 5.5 เมื่อมีค่า pH อัตราส่วนดินต่อน้ า เท่ากับ 1:1
2. Non acid class ได้แก่ ดินที่มีค่า pH ใน 0.01 M CaCl2 (1:2) มีค่ามากกว่าหรือ
เท่ากับ 5.0
ส าหรับการวิเคราะห์ค่าพีเอชในสารละลายโซเดียมฟลูออไรด์ (NaF) ใช้ในการ
จ าแนกดินของดินตามระบบอนุกรมวิธานดิน (Soil Taxonomy) ในกลุ่มดินที่เป็น amorphous
เพราะปฏิกิริยาของสารละลายโซเดียมฟลูออไรด์กับดินประเภทนี้จะท าให้เกิดการปลดปล่อยไฮดรอก
ไซด์ไอออนที่สัมพันธ์กับปริมาณ amorphous ของดินนั้น สาร amorphous ในดินเป็นสารที่เกิดจาก
กระบวนสลายตัวของสารพวก pyroclastic ในสภาพที่มีภูมิอากาศแบบชื้น ซึ่งสาร amorphous นี้
เป็นส่วนที่ท าให้เกิด spodic horizon ขึ้นในดินบางกลุ่มในเขตร้อนชื้น
วิธีกำร
วิธีการวิเคราะห์เช่นเดียวกับการวิเคราะห์หัวข้อ 3.3.1 แต่ใช้สารละลายแคลเซียม
คลอไรด์ (CaCl2) 0.01 M แทนน้ ากลั่น