Page 85 - การศึกษาวิเคราะห์พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากภาคใต้
P. 85
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
77
5.2 ข้อเสนอแนะ
5.2.1 การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นที่น้้าท่วมซ้้าซากโดยการซ้อนทับข้อมูลด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์
เพื่อให้มีการวิเคราะห์ข้อมูลมีความถูกต้องและใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด ควรใช้ข้อมูลตัวแปรอื่นๆ
ที่เกี่ยวข้องและเป็นข้อมูลที่ส่งผลต่อระดับความรุนแรงของการเกิดน้้าท่วมด้วย เช่น สภาพการหนุน
ของน้้าทะเล ขนาดของพื้นที่ลุ่มน้้า ความหนาแน่นของทางน้้า สิ่งกีดขวางทางน้้า (เส้นทางคมนาคม)
และความสูงจากระดับน้้าทะเล มาใช้วิเคราะห์ร่วมด้วยเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลเข้าด้วยกัน เพื่อให้ข้อมูลมี
ความละเอียดและมีความถูกต้องมากที่สุด รวมถึงขนาดของพื้นที่ที่ใช้ในการวิเคราะห์ ยิ่งขนาดของ
พื้นที่ยิ่งเล็ก ปัจจัยที่ใช้ในการวิเคราะห์ก็ควรมีความละเอียดมากขึ้นด้วยเพื่อความถูกต้องของผลวิเคราะห์
5.2.2 ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อก้าหนดพื้นที่น้้าท่วมซ้้าซาก สิ่งจ้าเป็นที่สุดคือ ฐานข้อมูลต่างๆที่
เป็นตัวแปรในการวิเคราะห์ จะต้องจัดเตรียมให้อยู่ในรูปแบบของข้อมูลเชิงตัวเลขให้แล้วเสร็จ และเป็น
มาตราส่วนเดียวกัน ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างมาก บางข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงช้า สามารถใช้วิเคราะห์ได้
หลายช่วงปี เช่น ข้อมูลด้านดิน ระบบล้าน้้า ระบบโครงข่ายถนน โดยมีการปรับปรุงฐานข้อมูลบ้างเมื่อมี
การเปลี่ยนแปลง ส้าหรับข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ได้แก่ ข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดิน และ
ข้อมูลปริมาณน้้าฝน ซึ่งเป็นตัวแปรหลักที่น้ามาวิเคราะห์เพื่อก้าหนดพื้นที่น้้าท่วมซ้้าซาก จ้าเป็นต้อง
เชื่อมโยงข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยาตลอดเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลง
5.2.3 ควรมีการติดตาม วิเคราะห์สาเหตุ ประเมินสถานการณ์ การส้ารวจข้อมูลความเสียหาย
และพื้นที่การเกษตรที่รับผลกระทบจากภัยน้้าท่วมในแต่ละปี ซึ่งเป็นสิ่งจ้าเป็นที่ต้องมีการเก็บบันทึกข้อมูล
สถิติการเกิดน้้าท่วมในทุกปี ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลและตรวจทานความถูกต้องของข้อมูลที่วิเคราะห์ออกมา
ได้อีกครั้งหนึ่ง
5.2.4 การวางแผนในการรับมือเพื่อป้องกันความเสียหายจากน้้าท่วมมีการจัดท้าแผนที่เสี่ยงภัย
และให้ค้าแนะน้าการปลูกพืช ระบบการปลูกพืช ในเขตที่ดินที่เหมาะสม มีการเฝ้าระวังและคาดการณ์
พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดภัยน้้าท่วมเพื่อแจ้งเตือนเกษตรกร ควรมีการบูรณาการท้างานร่วมกับหน่วยงานอื่น
เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมชลประทาน กรมส่งเสริมการเกษตร ในการจัดท้าแผนงาน
โครงการต่างๆ เพื่อช่วยป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติด้านการเกษตร เช่น การพัฒนาแหล่ง
ขุดลอกแหล่งน้้าเป็นพื้นที่รับน้้าในช่วงฤดูฝน การขุดสระน้้าในไร่นา และการอนุรักษ์ดินและน้้าเพื่อ
ป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน เป็นต้น
5.2.5 การปรับตัวให้เข้ากับสภาพน้้าท่วม เช่น การท้าคันดินเพื่อป้องกันน้้าท่วม การขุดคูคลอง
เพื่อระบายน้้าออกจากพื้นที่ซึ่งต้องตระหนักว่าน้้าท่วมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หากอาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้้า
หรือชายฝั่งแม่น้้าและยอมรับว่าจะต้องเผชิญหน้ากับน้้าท่วมเป็นประจ้าดังนั้นการให้ข้อมูลและ
ความรู้เรื่องน้้าท่วม การแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนจึงเป็นสิ่งที่จ้าเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้สามารถรับมือ
กับปัญหาน้้าท่วมได้เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับระดับน้้า วิธีการจัดการที่อยู่อาศัยและพื้นที่ท้าการเกษตร
การปรับเปลี่ยนฤดูกาลเพาะปลูกโดยเลื่อนช่วงการปลูกข้าวให้เร็วขึ้นหรือการใช้พันธุ์ข้าวอายุสั้นใน
การท้านาครั้งที่ 2 รวมถึงการเปลี่ยนชนิดพืชปลูกให้ทนต่อสภาพน้้าท่วมขังก็จะช่วยบรรเทาความเสียหาย
จากภัยน้้าท่วมได้ในระดับหนึ่ง
5.2.6 การมีส่วนร่วมของประชาชนในการรับมือปัญหาน้้าท่วมซ้้าซากในพื้นที่ภาคใต้จะมากหรือ
น้อยนั้น ขึ้นอยู่กับการรับรู้ถึงสาเหตุการเกิดปัญหาอุทกภัย ผลกระทบจากการเกิดอุทกภัย และ
การเตรียมความพร้อมรับมือปัญหาอุทกภัย หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคประชาชน ควรเข้ามามีส่วนร่วม