Page 11 - ผลการใช้สารเร่งซุปเปอร์ พด.3 ควบคุมโรคโคนเน่าที่เกิดจากเชื้อรา Sclerotium rolfsii ของกุยช่าย ในพื้นที่จังหวัดลำปาง
P. 11
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
1
หลักการและเหตุผล
กุยช่ายเป็นพืชผักที่ปลูกง่ายและเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี สามารถเก็บดอกจ าหน่ายและเพิ่มมูลค่าด้วย
การท าเป็นกุยช่ายขาวได้ด้วย อีกทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง สามารถน ามาประกอบอาหารได้หลาย
ประเภท ปัจจุบันกระแสความนิยมการบริโภคพืชผักสมุนไพรมีค่อนข้างสูง กุยช่ายจึงเป็นพืชผักที่มีผู้ให้ความ
สนใจบริโภคกันเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยท าให้ระบบขับถ่ายในร่างกายดีขึ้น ยังช่วยในการท าความ
สะอาดระบบทางเดินอาหารได้ การปลูกกุยช่ายสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรได้อย่างต่อเนื่อง จึงเป็น
ทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ กุยช่ายเป็นพืชที่เจริญได้ดีในดินร่วนปนทราย หรือปนดินเหนียว มีปริมาณ
อินทรียวัตถุสูง มีการระบายน้ าดี และความเป็นกรดเป็นด่างของดินอยู่ระหว่าง 6.5–6.8 แต่มักประสบปัญหา
การระบาดของโรคโคนเน่าที่เกิดจากเชื้อรา Sclerotium rolfsii ดังนั้นเพื่อเป็นการลดการแพร่ระบาดของเชื้อ
สาเหตุโรคโคนเน่าของกุยช่าย การใช้เชื้อจุลินทรีย์มาควบคุมโรคจึงเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่มีประสิทธิภาพและ
น่าสนใจ เช่น สารเร่งซุปเปอร์ พด.3 ซึ่งประกอบด้วยเชื้อรา Trichoderma sp. และเชื้อแบคทีเรีย Bacillus
sp. ที่สามารถท าลายหรือยับยั้งการเจริญของเชื้อจุลินทรีย์ในดินที่เป็นสาเหตุท าให้เกิดอาการรากเน่าและโคน
เน่าในพืชได้ รวมถึงการปรับปรุงสมบัติของดินทั้งทางด้านเคมี กายภาพ และชีวภาพให้มีสภาพที่ไม่เหมาะสมต่อ
การเจริญเติบโตของเชื้อสาเหตุโรคพืชในดิน ก็สามารถส่งผลให้เกษตรกรปลูกกุยช่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ท าให้ได้ผลผลิตและคุณภาพของกุยช่ายตรงตามความต้องการของตลาด
วัตถุประสงค์
เพื่อศึกษาการควบคุมโรคโคนเน่าที่เกิดจากเชื้อรา Sclerotium rolfsii ของกุยช่ายโดยใช้จุลินทรีย์ต่างๆ
การตรวจเอกสาร
1. กุยช่าย
กุยช่าย (Chinese Chive) เป็นพืชล้มลุกอยู่ในวงศ์ Alliaceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Allium
tuberosum Rottler กุยช่ายจัดได้ว่าเป็นพืชเสริมรายได้ที่ส าคัญประเภทหนึ่ง ทั้งนี้เพราะสามารถปลูกได้ทุก
ภาคของประเทศและให้ผลผลิตตลอดทั้งปี โดยสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เป็นเวลานานประมาณ 3 ปี หากมี
การดูแลรักษาที่ดี โดยพื้นที่ปลูกจ าเป็นต้องมีการจัดการด้านดินและน้ าเป็นอย่างดี ซึ่งพื้นที่ที่เหมาะสมในการ
ปลูกกุยช่ายควรเป็นดินดี มีน้ าสมบูรณ์ ในฤดูฝนน้ าไม่ท่วมขัง เพราะท าให้รากเน่าได้รับความเสียหายได้
ลักษณะดินที่เหมาะสมควรเป็นดินร่วนปนทราย หรือดินร่วนปนดินเหนียว มีปริมาณอินทรียวัตถุสูง ความเป็น
กรดเป็นด่างอยู่ระหว่าง 6.5-6.8 มีการระบายน้ าและอากาศได้ดี นอกจากนี้ไม่ควรมีวัชพืชพวกหญ้าแห้วหมูใน
ปริมาณมาก เพราะท าให้เกิดปัญหาการแย่งอาหารของพืชได้ ในการปรับปรุงดินส าหรับการปลูกกุยช่ายที่มี
สภาพความเป็นกรดสูงควรใส่ปูนขาว หรือโดโลไมท์ หากดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ าควรใส่ปุ๋ยคอกที่มีการ
สลายตัวดี ควรเป็นปุ๋ยมูลไก่หรือมูลเป็ด เพราจะมีเมล็ดวัชพืชติดมาน้อยกว่าปุ๋ยมูลวัว อัตราการใส่ปุ๋ยคอก