Page 47 - ผลของปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงและปุ๋ยเคมีสูตรต่าง ๆ ต่อการปลูกคะน้าในชุดดินบางกอก
P. 47

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                                                                        37







                                            จากการทดลอง พบว่าปริมาณอินทรียวัตถุในดินลดลงทุกวิธีการทดลอง
                       เนื่องจากการย่อยสลายอินทรียวัตถุโดยจุลินทรีย์ที่อยู่ภายในดิน ท าให้ธาตุที่เป็นองค์ประกอบของ

                       สารอินทรีย์เหล่านี้ถูกปลดปล่อยออกมาให้พืชสามารถน าไปใช้เพื่อการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิต
                       พืช (คณาจารย์ภาควิชาปฐพีวิทยา, 2544) การใส่ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่

                       ปริมาณอินทรียวัตถุในดินมีมากสุด เนื่องจากการใส่ปุ๋ยที่มีอินทรียวัตถุเป็นส่วนประกอบของปุ๋ยใน
                       ปริมาณมาก ส่งผลให้มีปริมาณอินทรียวัตถุในดินมีปริมาณมากกว่าทุกวิธีการทดลอง

                                              4) ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดิน
                                                  ผลของปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงและปุ๋ยเคมีสูตรต่างๆ มีผลให้ปริมาณ

                       ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินไม่แตกต่างกันทางสถิติ มีปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดิน

                       เฉลี่ยเท่ากับ 469 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม จัดว่ามีปริมาณอยู่ในระดับที่สูงมาก ในขณะเดียวกัน การใส่
                       ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน สูตร 46-0-0 อัตรา 44 กิโลกรัมต่อไร่  มีปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็น

                       ประโยชน์ในดินต่ าสุดเท่ากับ 379 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (ตารางที่ 10)
                                              วิธีการไม่ใส่ปุ๋ย ท าให้ผักคะน้าเจริญเติบโตได้น้อย จึงมีการดูดใช้

                       ฟอสฟอรัสน้อยซึ่งสอดคล้องกับผลผลิตที่ได้รับน้อยกว่าทุกวิธีการ  ส่งผลให้ดินหลังการทดลองมี

                       ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์เหลือในดินปริมาณมาก สอดคล้องกับการทดลองของ พงษ์สันต์
                       (2553)  ได้ศึกษา สภาวะธาตุอาหารพืชในพื้นที่เกษตรกรรมโครงการหลวง พบว่าในแปลงปลูกผักมี

                       ปริมาณฟอสฟอรัสสูงถึงสูงมากเกินพอ ซึ่งเป็นผลจากการที่เกษตรกรมีการใช้ปุ๋ยเคมีอัตราสูงและปุ๋ย
                       คอกมูลไก่ในปริมาณมาก และติดต่อกันเป็นเวลานาน จึงมีการสะสมปริมาณฟอสฟอรัสในดินสูง และ

                       เนื่องจากดินในแปลงทดลองที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นชุดดินบางกอก ซึ่งเป็นดินเหนียวที่มีเนื้อดิน

                       เป็นดินเนื้อละเอียด จึงมีการสะสมฟอสฟอรัสได้มากกว่าดินที่มีเนื้อดินหยาบ (คณาจารย์ภาควิชาปฐพี,
                       2544)

                                             5) ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดิน
                                                 ผลของปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงและปุ๋ยเคมีสูตรต่างๆ มีผลให้ดินหลังการ

                       ทดลองมีปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินไม่แตกต่างกันทางสถิติ โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 401

                       มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม การใส่ปุ๋ยเคมีตามค าแนะน าสูตร 15-15-15 อัตรา 34 กิโลกรัมต่อไร่ มีปริมาณ
                       โพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์สูงสุดเท่ากับ 424 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ส่วนการใส่ปุ๋ยเคมีตามค่า

                       วิเคราะห์ดิน สูตร 46-0-0 อัตรา 44 กิโลกรัมต่อไร่ นั้นมีปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดิน
                       ต่ าสุดเท่ากับ 377 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (ตารางที่ 10)

                                             จากผลวิเคราะห์ดิน พบว่าดินหลังการทดลองมีปริมาณโพแทสเซียมที่เป็น

                       ประโยชน์ในดินเพิ่มขึ้น เนื่องจากจากการเติมธาตุอาหารโดยการใส่ปุ๋ยเคมีที่มีธาตุโพแทสเซียมเป็น
                       องค์ประกอบของปุ๋ย และอีกส่วนหนึ่งเกิดจากการสะสมของธาตุดังกล่าวที่มีในดิน ซึ่งโพแทสเซียมรูป

                       ต่างๆ ในดินอยู่ในสภาวะสมดุลกัน เมื่อโพแทสเซียมรูปที่เป็นประโยชน์ต่อพืชลดลง เนื่องจากการดูด
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52