Page 42 - ผลของปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงและปุ๋ยเคมีสูตรต่าง ๆ ต่อการปลูกคะน้าในชุดดินบางกอก
P. 42
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
32
1.2.6 ผลผลิตคะน้า จากการทดลองพบว่า การใส่ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง และปุ๋ยเคมี
สูตรต่างๆ มีผลให้ผลผลิตคะน้า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญยิ่งทางสถิติ กล่าวคือ การใส่ปุ๋ย
ตามวิธีเกษตรกร สูตร 25-7-7 อัตรา 160 กิโลกรัมต่อไร่ มีผลให้ผลผลิตสูงสุดเท่ากับ 2,633 กิโลกรัม
ต่อไร่ แต่ไม่แตกต่างกับการใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 อัตรา 44 กิโลกรัมต่อไร่ ให้ผลผลิตเท่ากับ 2,380
กิโลกรัมต่อไร่รองลงมา และมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญยิ่งทางสถิติกับการใส่ปุ๋ยอินทรีย์
คุณภาพสูง การใส่ปุ๋ยเคมี 15-15-15 อัตรา 34 กิโลกรัมต่อไร่ และการไม่ใส่ปุ๋ย ให้ผลผลิตเฉลี่ยเท่ากับ
1,273 1,267 และ 1,069 กิโลกรัมต่อไร่ ตามล าดับ (ตารางที่ 7)
จากการทดลอง จะเห็นได้ว่าการใส่ปุ๋ยเคมีตามวิธีเกษตรกร สูตร 25-7-7 อัตรา 160 กิโลกรัมต่อไร่
เป็นวิธีการที่ท าให้ คะน้ามีการตอบสนองต่อการใส่ปุ๋ยได้ดีกว่าทุกวิธีการ เนื่องจากคะน้าได้รับธาตุอาหารหลัก
จากการใส่ปุ๋ยได้ครบทั้ง 3 ธาตุ (N-P-K) โดยมีปริมาณไนโตรเจนเท่ากับ 40 กิโลกรัมต่อไร่ ปริมาณฟอสฟอรัส
เท่ากับ 11.2 กิโลกรัมต่อไร่ และปริมาณโพแทสเซียมเท่ากับ 11.2 กิโลกรัมต่อไร่ (ตารางภาคผนวกที่ 8) และ
ได้รับธาตุอาหารจากดินอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งมีปริมาณ P และ K ที่สะสมตกค้างในดินอยู่ในปริมาณมาก ขณะที่คะน้า
เป็นพืชกินใบและล าต้นที่มีความต้องการธาตุอาหารหลักที่เหมาะสมโดยที่มีสัดส่วน 2:1:1 และผักคะน้าเป็นพืชที่
ต้องการธาตุอาหารไนโตรเจนมากกว่าฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมถึง 2 เท่า การปลูกผักตระกูล Brassica เช่น
คะน้าในหนึ่งฤดูปลูกมีความต้องการธาตุอาหารประกอบด้วย ไนโตรเจน 9-16 กิโลกรัมต่อไร่ ฟอสฟอรัส 1.5-2
กิโลกรัมต่อไร่ และโพแทสเซียม 15-25 กิโลกรัมต่อไร่
ดังนั้น การใส่ปุ๋ยเคมีตามวิธีเกษตรกรท าให้คะน้าได้รับธาตุอาหารจากการใส่ปุ๋ยเคมีและจากดิน
ในปริมาณมากเกินความต้องการของพืช ท าให้วิธีการดังกล่าวได้รับผลผลิตของคะน้าสูงสุดเท่ากับ 2,633
กิโลกรัมต่อไร่ การใส่ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์สูตร 46-0-0 คะน้าได้รับธาตุอาหารหลักจากการใส่ปุ๋ย คือ
ไนโตรเจนเพียงธาตุเดียวในปริมาณ 20 กิโลกรัมต่อไร่ แต่ในดินนั้นมีธาตุ P และ K สะสมในดินมีปริมาณมาก
และดินก่อนการทดลองสภาพดินมีความเป็นกรดเป็นด่างที่เหมาะสม จึงมีการปลดปล่อยธาตุ P และ K ได้มาก
ยิ่งขึ้น ปริมาณธาตุอาหารที่พืชได้รับปริมาณมากเพียงพอกับความต้องการของคะน้า ท าให้คะน้ามีผลผลิตสูง
รองลงมาเป็นอันดับ 2 ส่วนการใส่ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง (สูตรไนโตรเจน) อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ พืชได้รับธาตุ
อาหาร 3 ธาตุจากการใส่ปุ๋ย ซึ่งปริมาณไนโตรเจน เท่ากับ 4.13 กิโลกรัมต่อไร่ ปริมาณฟอสฟอรัส เท่ากับ 5.41
กิโลกรัมต่อไร่ และปริมาณโพแทสเซียม เท่ากับ 2.87 กิโลกรัมต่อไร่ และได้รับจากดินอีกส่วนหนึ่ง แต่มีปริมาณ
ไม่เพียงพอกับความต้องการของคะน้า ท าให้คะน้าได้รับผลผลิตมีผลผลิตรองลงมาเป็นอันดับ 3 เท่ากับ 1,273
กิโลกรัมต่อไร่ มีผลผลิตใกล้เคียง และไม่แตกต่างจากการใส่ปุ๋ยเคมีตามค าแนะน าสูตร 15-15-15 ที่ได้รับธาตุ
อาหารจากการใส่ปุ๋ยทั้ง N, P และ K ในแต่ละธาตุเท่ากับ 5.1 กิโลกรัมต่อไร่ (ตารางภาคผนวกที่ 8) มีผลผลิต
เท่ากับ 1,267 กิโลกรัมต่อไร่ จะเห็นได้ว่าเมื่อพิจารณาปริมาณธาตุอาหาร และผลผลิตทีได้รับ ระหว่างการใส่ปุ๋ย
อินทรีย์คุณภาพสูง และการใส่ปุ๋ยเคมีตามค าแนะน า นั้นมีค่าใกล้เคียงกัน ดังนั้นการใส่ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง
สามารถใช้ทดแทนการใส่ปุ๋ยเคมีได้ ส่วนการไม่ใส่ปุ๋ยเป็นวิธีการที่คะน้าได้รับธาตุอาหารจากดินเพียงเท่านั้น ท า