Page 48 - การใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวนาปีของศูนย์เรียนรู้ด้านการพัฒนาที่ดินตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ตำบลคู้ยายหมี อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
34

3.3.2 การปลูกและการดูแลรักษา
การปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105 แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ ตอนแรกเป็นการตกกล้า
(เพาะกล้า) ในแปลงขนาดเล็กขั้นตอนที่สองได้แก่การถอนต้นกล้าหรือย้ายกล้าไปปักด านาที่ได้เตรียมพื้นที่
ไว้แล้วขั้นตอนต่างๆ มีรายละเอียดดังนี้ (กรมการข้าว, 2553)

1) ขั้นการตกกล้า การตกกล้า หมายถึงการเอาเมล็ดไปหว่านให้งอกและเจริญเติบโต
ขึ้นมาเป็นต้นกล้า โดยในช่วงนี้อย่าให้น้ าท่วมแปลงกล้า แต่ให้มีความชื้นเพียงพอส าหรับการงอกและเพิ่ม
ระดับน้ าตามการเจริญเติบโตของต้นข้าวแต่อย่าให้น้ าท่วมต้นข้าวและมีระดับน้ าไม่เกิน 5 เซนติเมตร จาก
ระดับหน้าดิน เมล็ดพันธุ์ที่เอามาตกกล้าจะต้องเป็นเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์ปราศจากเชื้อโรคต่างๆ

2) ขั้นการปักด า ใช้ต้นกล้าอายุ 25-30 วัน โดยถอนต้นกล้าจากแปลงแล้วมัดรวมกันหาก
ต้นกล้าสูงมากก็ให้ตัดปลายใบทิ้ง น าไปปักด าในที่นาที่เตรียมไว้ซึ่งควรมีน้ าขังอยู่ประมาณ 5-10
เซนติเมตร เพราะช่วยค้ าต้นข้าวไม่ให้ล้มได้เมื่อมีลมพัด ท าการปักด าเป็นแถวโดยใช้กล้า 3-4 ต้นต่อกอ
ปลูกให้มีระยะห่างระหว่างกอ 25x25 เซนติเมตร หลังต้นข้าวออกรวงประมาณร้อยละ 80 ท าการระบาย

น้ าออก (กรมการข้าว, 2550)
3) ต้นข้าวมีโรคและแมลงศัตรูที่ควรระวังคือ โรคที่เกิดจากเชื้อราได้แก่โรคไหม้ (Rice
blast) โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ โรคขอบใบแห้ง (Bacteria leaf blight) โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส

ได้แก่ โรคใบสีส้ม (Yellow orange leaf virus disease) และโรคจู๋ หรือใบหงิก (Ragged stunt
disease) ตลอดจนแมลงศัตรูข้าว ได้แก่ หนอนกอ เพลี้ยจั๊กจั่นสีเขียว และเพลี้ยกระโดดสีน้ าตาล เป็นต้น
(สงกรานต์, 2544)
3.3.3 การผลิตข้าวขาวดอกมะลิ 105 ให้ได้คุณภาพดี (กรมการข้าว, 2553)
1) เลือกพื้นที่ปลูกที่เหมาะสม ข้าวขาวดอกมะลิ 105 มีพื้นที่ปลูกที่เหมาะสมอยู่ในเขต

นาน้ าฝนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ อาจพบมีการปลูกบ้างในบางพื้นที่ของภาคกลาง
ภาคตะวันออก และภาคใต้
2) ใช้เมล็ดพันธุ์ดีมีลักษณะตรงตามพันธุ์ มีความงอกมากกว่าร้อยละ 80 ไม่มีเมล็ดพันธุ์

อื่นปนและปราศจากสิ่งเจือปนอื่นๆ เช่น เมล็ดวัชพืช
3) เลือกวิธีการปลูกที่เหมาะสมกับพื้นที่ซึ่งสามารถท าได้ทั้งวิธีปักด าหว่านน้ าตม และ
หว่านข้าวแห้งโดยค านึงถึง ช่วงเวลาที่เหมาะสมปริมาณและการกระจายของน้ าฝน
3.1) วิธีปักด าเหมาะส าหรับเขตชลประทาน ควรตกกล้าประมาณกลางเดือน

กรกฎาคม ปักด าประมาณกลางเดือนสิงหาคม
3.2) วิธีหว่านน้ าตม เหมาะส าหรับเขตชลประทาน ควรหว่านประมาณ
กลางเดือน กรกฎาคมถึงกลางเดือนสิงหาคม
3.3) วิธีหว่านข้าวแห้ง เหมาะส าหรับพื้นที่ฝนตกน้อยหรือฝนล่า ช่วงเวลาปลูก

ควรอยู่ระหว่างกลางเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม