Page 9 - การใช้น้ำหมักชีวภาพควบคุมแมลงศุตรูพืช พด.7 ในการควบคุมหนอนชอนใต้ผิวเปลือกลองกองเพื่อผลิตลองกอง
P. 9
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อโครงการ การใช้น้้าหมักชีวภาพควบคุมแมลงศัตรูพืช พด.7 ในการควบคุมหนอนชอน
ใต้ผิวเปลือกลองกองเพื่อผลิตลองกอง
Effective of Bio-extract LDD.7 for control Longkong Bark Eating
Caterpillar (Microchlora sp) on Longkong.
ทะเบียนวิจัยเลขที่ 56 56 13 12 04000 025 160 04 11
กลุ่มชุดดินที่ กลุ่มชุดดินที่ 32 ชุดดินตาขุน (Tha Khun series: Tkn)
ผู้ด าเนินการ นายพิสุทธิ์ พูลสวัสดิ์ Mr.Phisut Phunsawat
บทคัดย่อ
ศึกษาการใช้น้้าหมักชีวภาพควบคุมแมลงศัตรูพืชในการควบคุมหนอนชอนใต้ผิวเปลือก
ลองกองเพื่อลดการใช้สารเคมี ด้าเนินการในแปลงลองกองของเกษตรกร หมู่ 4 ต้าบลนาใต้ อ้าเภอ
บ้านนาเดิม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เริ่มด้าเนินการ เดือนตุลาคม 2255 สิ้นสุดโครงการ เดือนกันยายน
2556 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการใช้น้้าหมักชีวภาพควบคุมแมลงศัตรูพืช พด.7 ในการควบคุม
หนอนชอนใต้ผิวเปลือกลองกอง ตลอดจนสมบัติดิน และผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ วางแผนการ
ทดลองแบบ Randomized Complete Block Design (RCBD) จ้านวน 4 วิธีการทดลอง วิธีการละ
5 ซ้้า ได้แก่ วิธีการที่ 1 แปลงควบคุม วิธีการที่ 2 พ่นด้วยสารคลอไพริฟอส อัตรา 120 ซีซีต่อน้้า 20
ลิตร วิธีการที่ 3 พ่นด้วยสารป้องกันแมลงศัตรูพืช พด.7 (บอระเพ็ด) พ่นบริเวณที่มีการระบาดทุก 7
วัน และวิธีการที่ 4 พ่นด้วยสารป้องกันแมลงศัตรูพืช พด.7 (บอระเพ็ด) พ่นบริเวณที่มีการระบาดทุก
14 วัน ท้าการเก็บข้อมูลดิน พบว่าเมื่อสิ้นสุดการทดลองทุกวิธีการดินมีค่าความเป็นกรดเพิ่มขึ้น
ปริมาณอินทรียวัตถุในวิธีการที่ 3 พ่นด้วยสารป้องกันแมลงศัตรูพืช พด.7 (บอระเพ็ด) พ่นบริเวณที่มี
การระบาดทุก 7 วัน และวิธีการที่ 4 พ่นด้วยสารป้องกันแมลงศัตรูพืช พด.7 (บอระเพ็ด) พ่นบริเวณที่
มีการระบาดทุก 14 วัน ซึ่งใช้สารไล่แมลงจาก พด. 7 มีปริมาณอินทรียวัตถุเพิ่มขึ้น ปริมาณฟอสฟอรัส
ที่เป็นประโยชน์ของดินอยู่ในระดับสูงมาก ปริมาณโพแทสเซียมที่สกัดได้ของดินมีปริมาณเพิ่มขึ้นใน
วิธีการที่ 3 พ่นด้วยสารป้องกันแมลงศัตรูพืชพด.7 (บอระเพ็ด) พ่นบริเวณที่มีการระบาดทุก 7 วัน
ปริมาณผลผลิตพบว่า วิธีการที่ 3 พ่นด้วยสารป้องกันแมลงศัตรูพืชพด.7 (บอระเพ็ด) พ่นบริเวณที่มี
การระบาดทุก 7 วัน มีปริมาณผลผลิตลองกองเกรด A มากที่สุดเท่ากับ 569 กิโลกรัมต่อไร่ วิธีการที่
1 แปลงควบคุม มีปริมาณผลผลิตเกรด B, C และ เกรดต่้า มากที่สุดเท่ากับ 416, 202 และ 50
กิโลกรัมต่อไร่ ตามล้าดับ เปอร์เซ็นต์การท้าลายของศัตรูลองกองในวิธีการที่ 2 ฉีดพ่นด้วยคลอไพริ
ฟอส อัตรา 120 ซีซีต่อน้้า 20 ลิตร พบเปอร์เซ็นต์รอยแผลน้อยที่สุด ส้าหรับผลตอบแทนทาง
เศรษฐกิจพบว่า วิธีการที่ 2 ฉีดพ่นด้วยคลอไพริฟอส อัตรา 120 ซีซีต่อน้้า 20 ลิตร มีต้นทุนการผลิต
สูงที่สุดเท่ากับ 29,543 บาทต่อไร่ และวิธีการที่ 1 แปลงควบคุม มีต้นทุนการผลิตต่้าสุดเท่ากับ 9,121
บาทต่อไร่ ส้าหรับรายได้สุทธิพบว่า วิธีการที่ 3 พ่นด้วยสารป้องกันแมลงศัตรูพืชพด.7 (บอระเพ็ด) พ่น
บริเวณที่มีการระบาดทุก 7 วัน มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสูงที่สุดเท่ากับ 18,031 บาทต่อไร่ และ
วิธีการที่ 2 ฉีดพ่นด้วยคลอไพริฟอส อัตรา 120 ซีซีต่อน้้า 20 ลิตร มีรายได้สุทธิต่้าที่สุดเท่ากับ -163
บาทต่อไร่ ฉะนั้นควรแนะน้าการจัดการสวนลองกองกับเกษตรกรตามวิธีที่ 3 คือ พ่นด้วยสารป้องกัน
แมลงศัตรูพืช พด.7 (บอระเพ็ด) พ่นบริเวณที่มีการระบาดทุก 7 วัน