Page 100 - รายงานการสำรวจและจำแนกดินเพื่อรองรับการประกาศเขตอนุรักษ์ดินและน้ำตามพระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน พ.ศ.2551 : กรณีศึกษาลุ่มน้ำน้ำย่าง จังหวัดน่าน

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
74

7.2 พื นที่รองรับการประกาศเขตอนุรักษ์ดินและน า ต าบลป่ากลาง อ าเภอปัว จังหวัดน่าน
จากผลการศึกษาทรัพยากรดินในพื้นที่ดังกล่าวร่วมกับวิเคราะห์และประเมินอัตราการกร่อนดินในพื้นที่

รองรับการประกาศเขตส ารวจที่ดินลุ่มน้ าน้ าย่าง ร่วมกับกองนโยบายและแผนการใช้ที่ดิน ส านักงานพัฒนาที่ดินเขต 7
และสถานีพัฒนาที่ดินน่าน พบว่าพื้นที่ ต าบลป่ากลาง อ าเภอปัว จังหวัดน่าน เป็นพื้นที่ที่มีการท าการเกษตรที่มี
ความเสี่ยงต่อการกร่อนดินสูง เกษตรกรเจ้าของพื้นที่มีความพร้อมและยินยอมด าเนินมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ า
จึงได้คัดเลือกพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ศึกษากระบวนการท างานการประกาศเขตอนุรักษ์ดินและน้ า ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมี

รายละเอียดดังต่อไปนี้

7.2.1 ข้อมูลทั่วไป
1) ที่ตั งและอาณาเขต

พื้นที่รองรับการประกาศเขตอนุรักษ์ดินและน้ า อยู่ด้านทิศตะวันตกของต าบลป่ากลาง อ าเภอปัว
จังหวัดน่าน ตั้งอยู่โซน 47Q ระหว่าง พิกัด UTM 2117596 N ถึง พิกัด 2114603 N และระหว่าง พิกัด 699904 E
ถึง พิกัด UTM 699666 E ตามแผนที่ภูมิประเทศ มาตราส่วน 1: 50,000 ล าดับชุดที่ L7018 5147II (อ าเภอปัว)
มีเนื้อที่ 2,880 ไร่ อยู่ห่างจากอ าเภอเมือง จังหวัดน่านไปทางทิศเหนือ ประมาณ 78 กิโลเมตร การคมนาคมจาก

อ าเภอเมืองน่าน-อ าเภอท่าวังผา ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 และจากอ าเภอท่าวังผา-อ าเภอปัว ใช้ทาง
หลวงแผ่นดินหมายเลข 1256 (ภาพที่ 22)
ทิศเหนือ ติดต่อบ้านตาหลวง ต าบลป่ากลาง บ้านไร่รวงทอง ต าบลปัว อ าเภอปัว จังหวัดน่าน

ทิศใต้ ติดต่อบ้านนานิคม ต าบลยม อ าเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน
ทิศตะวันออก ติดต่อบ้านห้วยมะนาว บ้านค้างฮ้อ ต าบลป่ากลาง อ าเภอปัว จังหวัดน่าน
ทิศตะวันตก ติดต่อบ้านน้ าฮาว ต าบลยม อ าเภอปัว จังหวัดน่าน

2) สภาพภูมิประเทศ

พื้นที่รองรับการประกาศเขตอนุรักษ์ดินและน้ าอยู่ในต าบลป่ากลาง อ าเภอปัว จังหวัดน่าน สภาพพื้นที่
โดยทั่วไป (ภาพที่ 22) ประกอบด้วยสภาพพื้นที่ที่เป็นที่ราบ ลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อยถึงลูกคลื่นลอนชัน
และเนินเขาสลับกันไป มีความสูงอยู่ระหว่าง 280-360 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง จะเห็นได้ว่า สภาพพื้นที่

ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เนินเขา (20-35 เปอร์เซ็นต์) มีเนื้อที่รวมมากถึง 1,396 ไร่ หรือร้อยละ 48.5 ของพื้นที่ (ตารางที่ 19
ภาพที่ 23 และภาพที่ 24) ซึ่งพื้นนี้มีความเสี่ยงต่อการกร่อนดินสูง นอกจากนี้ พื้นที่ที่มีควมลาดชันในบริเวณอื่นๆ
ก็มีความเสี่ยงต่อการกร่อนดินเช่นกัน เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีการท าการเกษตร และพืชที่ปลูกเป็น
พืชไร่ เช่น ข้าวโพด อีกทั้งยังไม่มีการจัดท าระบบการอนุรักษ์ดิน ยิ่งส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการกร่อนดินเพิ่มมาก

ยิ่งขึ้น