Page 193 - รายงานการสำรวจดิน เขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำห้วยกุดรัง ลุ่มน้ำสาขาลำน้ำชีส่วนที่ 4 (รหัส 0416) ลุ่มน้ำหลักแม่น้ำชี (รหัส 04) พื้นที่ดำเนินการ บ้านวังทอง หมู่ที่ 7 บ้านวังโจด หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 15 บ้านห้วยเตย หมู่ที่ 12 และบ้านหนองแสง หมู่ที่ 11 ตำบลห้วยเตย อำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม
P. 193
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
149
ส าหรับการแก้ไขปัญหาการชะล้างพังทลายระดับเล็กน้อยถึงปานกลางของดินใน
พื นที่ลุ่ม ในหน่วยแผนที่ Kss-hb-lsA/d ,E Kts-lsA/d ,E และ Kkn-lsA/d ,E ที่มีสภาพพื นที่ค่อนข้าง
5 1
5 2
5 1
ราบเรียบ สามารถท าได้ทั งวิธีกลและวิธีพืชควบคู่กันไป เช่น การปรับรูปแปลงนาลักษณะที่ 1 เพื่อเสริมคัน
ดินให้ใหญ่ขึ นและเสริมความแข็งแรงของคันดินด้วยการปลูกหญ้าแฝก ให้สามารถต้านทานต่อการกัดเซาะ
ของน าในฤดูน าหลากได้
(2) ดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ าในดอนท าไร่ ที่มีสภาพดินเป็นกรด เช่น ในหน่วย
แผนที่ Cpr-lsB/d ,E มีค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินต่ ากว่า 5.5 ที่ใช้ปลูกอ้อยและมันส าปะหลัง ควรมี
5 1
การปรับปรุงดินด้วยปูนโดโลไมท์ในอัตรา 200-300 กิโลกรัมต่อไร่ ก่อนแล้วจึงตามด้วยการเติมปุ๋ยหมักหรือ
ปุ๋ยคอก ในอัตรา 3-4 ตันต่อไร่ แล้วให้ปุ๋ยเคมีสูตร 32-8-16 หรือ 24-12-24 ในอัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่
ส าหรับในหน่วยแผนที่ Msk-lsB/d ,E ควรปรับปรุงโดยการใส่ปุ๋ยหมัก อัตรา 3-4 ตันต่อไร่ ควบคู่กับการใช้
5 2
ปุ๋ยเคมีสูตร 32-8-16 หรือ 24-12-24 ในอัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่
ดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ าในที่ดอนปลูกไม้ผล เช่น มะม่วง และ มะพร้าว ควร
ปรับปรุงเคมีของดินโดยการเติมปูนโดโลไมท์ในหน่วยแผนที่ Cpr-lsB/d ,E ในอัตรา 500-700 กิโลกรัมต่อไร่
5 1
แล้วปรับปรุงโครงสร้างดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 3-5 กิโลกรัมต่อหลุม หรือใส่บริเวณทรงพุ่มใน
อัตรา 20-50 กิโลกรัมต่อต้น รวมทั งการใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หรือสูตร 12-24-12 ในอัตราตั งแต่ 1-3
กิโลกรัมต่อต้น ขึ นอยู่กับช่วงอายุของมะม่วง
การแก้ไขปัญหาการชะล้างพังทลายของดินในพื นที่ดอน ในหน่วยแผนที่
Cpr-lsB/d ,E ที่มีสภาพความลาดเทเล็กน้อยประมาณ 2-5 เปอร์เซ็นต์ ควรจัดการด้วยวิธีกลที่เหมาะสม
5 1
เช่น ท าแนวคันดินหรือการปลูกพืชขวางความลาดเทของพื นที่ บริเวณร่องทางน าที่ไหลจากที่ดอนท าไร่ ลงสู่
พื นที่ลุ่มท านา นอกจากนี วิธีพืชที่เหมาะสมและสามารถท าได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกวิธีหนึ่งคือการปลูกพืช
แบบสลับขวางความลาดเท (strip cropping system) วิธีนี นอกจะช่วยในการปกคลุมหน้าดินแล้วยังช่วย
ป้องกันไม่ให้เม็ดฝนตกกระแทกกับเม็ดดินโดยตรงอีกด้วย นอกจากนี ในพื นที่ ควรมีการจัดท าระบบอนุรักษ์
ดินและน าโดยการท าแนวคันดินเบนน า เพื่อชะลอความเร็วของน าไหล
ส าหรับการแก้ไขปัญหาพื นที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน าในหน่วยแผนที่ดินนี ควร
จัดหาแหล่งส ารองน า หรือการสร้างแหล่งน าสาธารณะที่ต้องใช้พื นที่ขนาดใหญ่ เพื่อให้รองรับน าไว้ให้
เกษตรกรได้ใช้อย่างเพียงพอ แล้วจัดท าระบบชลประทานระบบท่อ ให้ครอบคลุมพื นที่ใช้น า ตลอดจนการ
จัดหาแหล่งน าขนาดเล็กในไร่นานอกเขตชลประทานให้แก่เกษตรกรรายบุคคล เพื่อส ารองน าไว้ใช้ในยาม
ฉุกเฉิน หากเกิดภาวะฝนทิ งช่วงยาวนาน ส่วนมาตรการด้านพืช ควรส่งเสริมเกษตรกรหันมาปลูกพืช