Page 42 - การศึกษาประสิทธิภาพจุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 ต่อการเพิ่มความเป็นประโยชน์ของฟอสฟอรัสและผลผลิตข้าวในดินกรดจัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
P. 42
33
ข้อเสนอแนะ
1. ในพื้นที่ที่ดินมีปริมาณฟอสฟอรัสในดินต่ํามาก ควรมีการเพิ่มวัสดุปรับปรุงดินที่มีปริมาณ
ฟอสฟอรัสสูง เช่น หินฟอสเฟต ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีฟอสฟอรัสสูง และราคาถูก เพื่อเป็นแหล่งฟอสฟอรัส
ในดินจัดการร่วมกับการใช้จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9
2. จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 เป็นจุลินทรีย์กลุ่มเฮทเทอร์โรโทรป (hetherotrode) ซึ่งต้อง
อาศัยสารอินทรีย์เป็นแหล่งอาหารและพลังงานในการเจริญเติบโตและดําเนินกิจกรรม จึงควรมี
การศึกษาการจัดการอินทรียวัตถุในนาข้าวร่วมกับการใช้จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 เพื่อเพิ่มแหล่งอาหาร
และพลังงานแก่จุลินทรีย์ เช่น การไถกลบตอซัง การปลูกพืชปุ๋ยสดและไถกลบ การใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก
และการใช้น้ําหมักชีวภาพ เป็นต้น
3. จากผลการทดลอง โดยเฉพาะในแปลงทดลอง พบว่าจุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 มีแนวโน้มมี
ประสิทธิภาพการละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตใกล้เคียงกับการใช้ปูนร่วมกับปุ๋ยเคมีไนโตรเจน และ
โพแทสเซียม ตามค่าวิเคราะห์ดิน ดังนั้นในการปรับปรุงดินควรมีการศึกษาการใช้จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9
ร่วมกับการใช้ปูน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการละลายอนิทรีย์ฟอสเฟตและการเจริญเติบโตของพืช
หรือช่วยลดอัตราการใช้ปูนในการปรับปรุงดินกรดจัด
4. ดินนาในสภาพน้ําขังส่วนใหญ่ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินเมื่อขังน้ําจะเข้าใกล้ความ
เป็นกลาง ทําให้มีการปลดปล่อยฟอสฟอรัสบางส่วนออกสู่สารละลายดิน ส่งผลให้การทดสอบ
ประสิทธิภาพของจุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 เห็นผลไม่ชัดเจนควรมีการศึกษาเพิ่มเติมในดินกรดจัดใน
สภาพอื่นๆ เช่น ข้าวไร่ ข้าวโพด และพืชผัก เป็นต้น ที่อยู่ในสภาพที่ดอน
ประโยชน์ที่ได้รับ
1. ได้ทราบถึงประสิทธิภาพและอัตราการใช้จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 ที่เหมาะสมต่อการเพิ่ม
ความเป็นประโยชน์ของฟอสฟอรัสในดินและผลผลิตข้าวในดินกรดจัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
2. เป็นข้อมูลทางวิชาการแก่นักศึกษา อาจารย์ นักวิชาการ และหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ
และเอกชนที่สนใจ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวิจัยต่อยอดและศึกษาขยายผลในดินที่มีระดับความเป็น
กรดเป็นด่างระดับต่างๆ และในพืชเศรษฐกิจชนิดอื่นๆ ต่อไป
3. ได้องค์ความรู้ในการใช้ประโยชน์จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 ที่เหมาะสมต่อการเพิ่มผลผลิต
ข้าว และใช้องค์ความรู้ดังกล่าวถ่ายทอดแก่เกษตรกรในพื้นที่ที่ดินมีปัญหาการดูดยึดฟอสฟอรัส เป็น
ทางเลือกในการจัดการดินที่ยั่งยืน ไม่เพิ่มต้นทุนการผลิต เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
4. นําองค์ความรู้ที่ได้ไปเผยแผ่ในการประชุม และสัมมนาทางวิชาการ เพื่อแลกเปลี่ยน
ประสบการณ์ และความรู้ระหว่างนักวิจัย นักศึกษา อาจารย์ และนักวิชาการ เป็นการสร้างเครือข่าย
นักวิจัยรุ่นใหม่
5. นําองค์ความรู้ที่ได้ไปจัดทําเอกสารวิชาการ แผ่นพับ และโปสเตอร์ เพื่อใช้ในการถ่ายทอด
ความรู้แก่นักวิชาการ เกษตรกร และบุคคลทั่วไปที่สนใจ

