Page 70 - องค์ความรู้สู่ปีดินสากล 2558
P. 70
6) ดินในทุงกุลารองไหไมเพียงแต จะขาดความอุดมสมบูรณเพราะสวนใหญหนาดิน
จะเปนทรายจัดขาดอินทรียวัตถุ (มีอินทรียวัตถุนอยกวารอยละ 1)และขาดธาตุอาหารที่จําเปนตอการ
เจริญเติบโตของตนขาว บางสวนยังเปนดินเค็มและสภาวะดินเค็มก็มีแนวโนมวาจะแพรกระจายเพิ่มมากขึ้น
(จากรอยละ 17 ของพื้นที่ในป 2517 เปนรอยละ.27.ของพื้นที่ในป2527). เพราะทุงกุลารองไหตั้งอยูบนชั้น
หินชุดมหาสารคามซึ่งเปนชั้นหินเกลือเกลือเหลานี้มีโอกาสที่จะทะลักขึ้นมาสูผิวดินหรือระดับรากพืช
ที่เพาะปลูก เชนขาวไดโดยงาย หากระบบนิเวศนของเกลืออยูในสภาวะที่เหมาะสม
7) เนื่องจากพื้นที่แองกระทะขนาดใหญนี้ไมสามารถควบคุมน้ําไดจึงทําใหเกิดสภาวะ
ขาดแคลนน้ําและสภาวะน้ําทวมเกิดขึ้นสลับกันในชวงทํานาปทําใหตนขาวไดรับความเครียดไมนอยไปกวา
ตัวเกษตรกรเองปรากฏการณนี้ไมเพียงแตจะมีผลกระทบตอการเจริญเติบโตของตนขาวสภาวะแหงสลับเปยก
นั้นยังเปนตัวการเรงเราใหเกลือทะลักขึ้นมาสูผิวดินเกิดการแพรกระจายของดินเค็มเพิ่มมากขึ้นดังกลาวแลว
ขางตน ยิ่งไปกวานั้นถามวลของน้ําในดินในระบบรากของตนขาวลดนอยลงทําใหเกิดชองวางในดิน.อากาศ
จะเขาไปแทนที่ในระยะเวลาไมนาน( 5 วัน ) คาความเปนกรดเปนดาง.( pH ) ของดินก็จะลดลงอยางรวดเร็ว
ทําใหดินคายพิษอลูมิเนียมออกมาทั้งดินเค็มดินเปนพิษอลูมิเนียมและดินที่แหงแลงเพราะขาดแคลนน้ํา จะมีผล
ทําใหตนขาวเหี่ยวเฉาและตายไปในที่สุด นับเปนภัยพิบัติที่ซ้ําเติมแกชาวทุงกุลารองไหอีกสวนหนึ่งดวย
8) ทุงกุลารองไหเปนที่ราบลุมกวางใหญแตขาดแคลนแหลงน้ําตนทุน ดังนั้น การประกอบ
อาชีพทางการเกษตรของเกษตรกรในทุงกุลารองไหจึงมีฐานการผลิตที่แคบ กลาวคือสวนใหญจะมีอาชีพ
ที่ขึ้นอยูกับการทํานาปเพียงอยางเดียวสวนนาปรังนั้นไมตองพูดถึงเพราะแหลงน้ําตนทุนมีนอยมาก เมื่อผานพน
ฤดูฝนแลงก็จะเกิดสภาพแหงแลงโดยทั่วไปและเมื่อเก็บเกี่ยวขาวนาปแลวเสร็จจะมีการปลูกพืชครั้งที่ 2
และประกอบอาชีพอื่นเพียงเล็กนอยหรือแทบไมมีอาชีพในบางพื้นที่ ถาปใดการทํานาปไดผลผลิตนอยหรือไดรับ
ความเสียหาย ผลกระทบที่เกษตรไดรับจะมีมาก เนื่องจากไมสามารถนํารายไดจากภาคการผลิตอื่นมาทดแทน
ได ชาวทุงกุลารองไหจึงตองอพยพไปทํามาหากินในตัวเมืองหรือเมืองหลวงตอไป
9) ถนนที่ใชไดทุกฤดูกาลในเขตทุงกุลารองไหมีไมเพียงพอ โดยเฉพาะฤดูฝนอีกทั้งที่ดิน
สวนใหญเปนที่ดินตาบอด กลาวคือรอยละ 80 ของที่ดินในทุงกุลารองไหจะไมมีทางเขาออกแปลงนาที่เปนทาง
สาธารณะประโยชน ทําใหการขนสงเครื่องไมเครื่องมือและปจจัยการผลิตเขาถึงพื้นที่นาไดดวย
ความยากลําบากและมีราคาคางวดที่เกี่ยวกับดานการคมนาคมการขนสงและการลําเลียงปจจัยการผลิต
และผลผลิตแพงกวาปกติเปนเทาตัวที่ดินเหลานั้น จึงใหผลตอบแทนนอยและมีคุณคาทางเศรษฐกิจที่ต่ํามาก
มโนทัศนของงานโครงการปรับปรุงพื้นที่นา
จากปญหาของทุงกุลารองไหกับการทํานาทั้ง 5 ขอ ดังกลาวแลวขางตน คําตอบรวบยอดของการ
แกปญหาทั้ง 9 ขอ คือ ทําอยางไรเราจึงจะสามารถลดหรือควบคุมความรุนแรงของอุทกภัยที่เกิดขึ้นเปนประจํา
และสามารถนําน้ําสวนเกินนั้น กลับมาใชเปนการชลประทานเสริม เพื่อควบคุมความรุนแรงของภัยแลง
และการเกิดพิษอลูมิเนียม ในระบบ รากตนขาวในสภาวะ ฝนทิ้งชวง ทําใหชาวทุงกุลารองไหสามารถทํานาป
ใหไดผลดีอยางนอยปละครั้งเพื่อใหชาวนาไดรายไดเพิ่มขึ้นเทากับนาปในที่อื่นๆของประเทศกับทั้งตองควบคุม
มิใหเกิดการแพรกระจายของดินเค็ม เปนการเพิ่มเติมควบคูไปกับการควบคุมความรุนแรงของดินเค็มที่มีอยู
กอนแลว หรือที่เกิดขึ้นแลวไมใหเปนพิษเปนภัยแกการทํานาปและการปลูกพืชอื่นๆทั้งที่ควบคูไปกับการทํานาป
และหลังฤดูทํานาปของชาวนาทุงกุลารองไหอีกตอไปเทากับทําใหโอกาสที่จะขยายฐานการผลิตที่แคบก็จะมี
มากขึ้น
คําตอบที่เปนรูปธรรมที่สุด คือ การจัดใหมีการทําระบบควบคุมการระบายน้ํา ซึ่งมี
องคประกอบมากกวาการบริหารอุทกภัย และการบริหารภัยแลง อันเนื่องมาจากสภาวะฝนทิ้งชวง เพราะระบบ
ควบคุมการระบายน้ํานี้จะประกอบดวยสิ่งกอสรางตางๆ ดังนี้
โครงการพัฒนาทุงกุลารองไห 67