Page 66 - แนวทางการศึกษาดินตัวแทนหลักสำหรับพัฒนาการเกษตรของประเทศไทย
P. 66
- 59 -
Prominent เห็นได้ชัดมาก จุดประมีสีแตกต่างกับสีพื้นมาก จะมีลักษณะดังต่อไปนี้ คือ
1) มี Hue แตกต่างจากของสีพื้นอย่างน้อย 2 หน้า (5 หน่วย) ถ้าหากว่าค่า
chroma และค่า value เท่ากัน
2) มี Hue เหมือนกับของสีพื้น แต่ค่า chroma หรือค่า value จะต้องแตกต่าง
ออกไปอย่างน้อย 4 หน่วย
3) มี Hue แตกต่างจากของสีพื้น 1 หน้า (2.5 หน่วย) ค่า chroma ต้องแตกต่าง
ออกไปอย่างน้อย 1 หน่วย หรือค่า value จะต้องแตกต่างจากของสีพื้นไม่ต่ํากว่า 2 หน่วย
หากต้องรายงานให้ละเอียดแล้ว จะบอกถึงรูปร่างของจุดประด้วย เช่น เป็นเส้น
(streaks) เป็นแถบ (band) เป็นรูปลิ้น (tongues) เป็นท่อ (tubes) เป็นจุด (spots) และอาจจะต้องอธิบายถึง
ขอบเขตที่สีจุดประต่อกับสีพื้นด้วยว่าชัดเจนเพียงใด
- ขอบเขตของจุดประ เป็นขอบเขตการแยกตัวของบริเวณที่เป็นสีจุดประกับสีพื้นว่ามีความ
ชัดเจนมากน้อยเพียงใด จะมีความสําคัญเฉพาะในดินบางชนิดเท่านั้น แบ่งออกเป็น
Sharp มีลักษณะของแนวต่อระหว่างจุดประกับสีพื้นคมชัดเหมือนใบมีด (ไม่สามารถ
มองเห็นความกว้างของแนวต่อเนื่องด้วยตาเปล่า
Clear แนวต่อเนื่องระหว่างจุดประกับสีพื้น มีความกว้างที่แคบกว่า 2 มิลลิเมตร
Diffuse แนวต่อเนื่องระหว่างจุดประกับสีพื้น มีความกว้างประมาณมากกว่า 2
มิลลิเมตร
3. การรายงานสีพื้นและสีจุดประ
- การรายงานสีพื้น ให้รายงานสีที่มีอยู่มากที่สุด และไม่จําเป็นต้องระบุสภาพของดิน
นอกจากดินแห้ง ถ้ามีหลายสี ให้รายงานสีที่มีมากที่สุด (dominant color) ก่อน แล้วระบุต่อไปว่ามีสีอะไรบ้าง
ผสมอยู่ (ในกรณีที่ไม่ใช่สีจุดประ)
- การรายงานสีจุดประ จะต้องรายงานต่อจากสีพื้น และรายงานตามลําดับคือ ปริมาณของ
สีจุดประ ขนาดของสีจุดประ ความชัดเจนของสีจุดประ สีของสีจุดประ และอาจเพิ่มเติมลักษณะอย่างอื่นของสี
จุดประด้วย ในกรณีที่มองเห็นได้ว่าสีของจุดประแตกต่างกัน แต่มีขนาดเล็กมากและจางมาก ไม่จําเป็นต้อง
รายงานโดยใช้รหัสมันเซลล์ก็ได้ แต่จะต้องบันทึกไว้ในลักษณะอื่นๆ ให้เป็นที่เข้าใจได้
การจําแนกความแตกต่างระหว่างสีจุดประกับสีพื้น (contrast) แสดงตามตารางที่ 4-5 และ
การแยกระหว่างสีพื้นและสีจุดประที่เกิดจากอิทธิพลการขังน้ําของดิน แสดงตามภาพที่ 4-29
ตารางที่ 4-5 การจําแนกความแตกต่างระหว่างสีจุดประกับสีพื้น (contrast)

