Page 518 - รายงานการจัดการทรัพยากรดินเพื่อการปลูกพืชเศรษฐกิจหลักตามกลุ่มชุดดิน เล่มที่ 1 ดินบนพื้นที่ราบต่ำ
P. 518

504



                  5. ปญหาและขอจํากัดในการปลูกพืช

                          5.1 ดินตื้นถึงตื้นมาก   มีกรวดลูกรังหรือเศษหินปนกับเนื้อดินมาก ทําใหรากพืชจะชอนไชไดยาก

                  ในชวงฤดูแลงดินจะแหงเร็ว

                          5.2  การชะลางพังทลายของดิน  เกิดขึ้นในระดับปานกลางถึงรุนแรง  โดยเฉพาะการเพาะปลูกใน

                  พื้นที่ซึ่งมีความลาดเทมากกวา 5เปอรเซ็นต โดยไมมีการอนุรักษดินและน้ําอยางเหมาะสม


                          5.3  ความอุดมสมบูรณของดินลดลงเร็ว  เมื่อดินถูกชะลางพังทลายและหนาดินสูญหายไป  ชั้น

                  กรวดลูกรังหรือเศษหินจะโผลขึ้นมาแทน บางพื้นที่ใชปลูกพืชไมไดเลย

                          5.4 ดินแหงจัดและขาดแคลนน้ําในการเพาะปลูก  โดยเฉพาะในฤดูแลง ดินจะมีความชื้นต่ํามาก

                  จนไมสามารถใชเพาะปลูกพืชได ประกอบกับบริเวณที่พบกลุมชุดดินนี้ระบบชลประทานเขาไมถึง และแหลง

                  น้ําธรรมชาติมีนอย ปญหาการขาดแคลนน้ําจึงรุนแรง

                  6. การจัดการเพื่อใหเหมาะสมในการปลูกพืช


                          6.1 การจัดการปญหาดินตื้น  ในการปลูกพืชไรควรเลือกดินที่มีชั้นดินหนากวา 15 ซม. สําหรับพืชที่
                  มีรากตื้น เชน ขาวโพด ขาวฟาง ถั่วเขียว ถั่วลิสง และอื่นๆ สวนการปลูกไมผลหรือไมยืนตน ควรขุดหลุมปลูก

                  ใหมีขนาด 75x75x75  ซม.  แลวผสมดินกับปุยอินทรีย เชน ปุยคอก หรือปุยหมัก  อัตราประมาณ 20-30

                  กก./หลุม

                          6.2  การปองกันการชะลางพังทลายของดิน  โดยผสมผสานวิธีกลและวิธีการทางพืช  สําหรับ

                  วิธีการทางพืช ไดแก 1) ปลูกพืชเปนแถบตามแนวระดับขวางความลาดเทของพื้นที่ 2) ปลูกแถบหญาแฝก

                  ขวางตามแนวระดับเพื่อชวยลดการไหลบาของน้ําและชวยดักตะกอน 3) ปลูกพืชตระกูลถั่วสลับกับแถวพืช

                  หลัก 4) ปลูกพืชตระกูลถั่วแซมหรือเหลื่อมฤดู  หรือ 5) ปลูกพืชคลุมดินในสวนผลไมหรือไมยืนตน สําหรับ
                  พื้นที่ซึ่งมีความลาดเทมากกวา 5  เปอรเซ็นต  ควรใชวิธีกล เชน ทําคันดิน คันเบนน้ํา ทางระบายน้ํา บอดัก

                  ตะกอนหรือบอน้ําในไรนา เพื่อลดการชะลางพังทลายของหนาดิน


                          6.3  การอนุรักษน้ําในดินและพัฒนาแหลงน้ํา   การอนุรักษน้ําในดินโดยใชวัสดุคลุมผิวดินใน

                  แปลงพืช หรือปลูกพืชคลุมดินระหวาแถวพืชยืนตน นอกจากนี้ยังตองพัฒนาแหลงน้ําใหเพียงพอตอการ
                  เพาะปลูก เนื่องจากกลุมชุดดินนี้มักขาดแคลนน้ํา และในฤดูแลงความชื้นในดินต่ํามาก


                          6.4 การปรับปรุงและรักษาความอุดมสมบูรณของดิน  ซึ่งทําไดหลายวิธีดังนี้
                         6.4.1 ปลูกพืชบํารุงดิน ไดแก การปลูกพืชหมุนเวียนโดยใชพืชตระกูลถั่วตางๆ สลับกับการปลูกพืช

                  หลัก การปลูกพืชปุยสดแลวไถกลบเมื่อพืชออกดอก การปลูกพืชตระกูลถั่วแซมระหวางแถวพืชหลัก  เพื่อ

                  ปรับปรุงความอุดมสมบูรณของดิน โดยเฉพาะอยางยิ่งปริมาณไนโตรเจนในดินจะสูงขึ้น
   513   514   515   516   517   518   519   520   521   522   523