Page 305 - รายงานการจัดการทรัพยากรดินเพื่อการปลูกพืชเศรษฐกิจหลักตามกลุ่มชุดดิน เล่มที่ 1 ดินบนพื้นที่ราบต่ำ
P. 305
291
7. ขอเสนอแนะ
กลุมชุดดินที่ 36 มีศักยภาพเหมาะสมในการปลูกพืชไร ไมผลหรือไมยืนตน และพัฒนาเปนทุงหญา
เลี้ยงสัตว แตไมเหมาะสมกับการทํานา เนื่องจากเปนที่ดอน มีลักษณะเปนลูกคลื่นลอนลาดถึงที่ลาดเชิงเขา
ไมอาจกักเก็บน้ําเพื่อการปลูกขาวได จึงใชประโยชนได 2 แบบ คือ 1) ปลูกพืชเชิงเดี่ยว เชน ปลูกพืชไร หรือ
ไมผลหรือปลูกหญาเลี้ยงสัตว และ 2) การทําเกษตรแบบผสมผสาน เชน ปลูกพืชไร-ไมผล-พืชผัก หรือ ปลูก
พืชไร-ไมผล-หญาเลี้ยงสัตว หรือไมผล-หญาเลี้ยงสัตว เปนตน สําหรับการเลือกระบบของการผสมผสาน
ขึ้นอยูกับสภาพพื้นที่ ทักษะของเกษตรกร ผลิตผลทางการเกษตรที่ตลาดตองการ และปจจัยการผลิต เชน
แหลงน้ํา อยางไรก็ตามเกษตรกรควรเลือกกิจกรรมที่เอื้อประโยชนซึ่งกันและกันเปนอันดับแรก เชน การเลี้ยง
สัตวควบคูกับการปลูกไมผล เพื่อนํามูลสัตวมาเปนปุยบํารุงดินในสวนไมผล นอกจากนี้ยังควรใชพื้นที่
ระหวางแถวไมผลสําหรับปลูกหญาเลี้ยงสัตวดวย
พืชที่แนะนําใหปลูกมีดังนี้ 1) ไมผล ไดแก มะมวง ขนุน มะขามหวาน สม มะละกอ และสับปะรด
2) พืชไร ไดแก มันสําปะหลัง ขาวโพด ถั่วลิสง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ละหุง งา ฝาย และออย และ 3) พืชผักจะ
ปลูกไดดีโดยเฉพาะในชุดดินปราณบุรี เชน พวกกะหล่ํา ผักกาด มะเขือ พริก ถั่วฝกยาว แตงกวา และอื่นๆ
8. การเตรียมดินสําหรับปลูกพืชชนิดตางๆ
8.1 การเตรียมดินสําหรับปลูกพืชไร
8.1.1 ปญหาการการชะลางพังทลายของหนาดินและขาดแคลนน้ําในบางชวง
1) ไถเตรียมดินปลูกตามแนวระดับขวางความลาดเทของพื้นที่
2) ทําคันดินขวางการลาดเทของพื้นที่ชวยชะลอการไหลบาของน้ําที่ผิวดินเมื่อฝนตกหนัก
3) ขุดบอดักตะกอนเพื่อชวยชะลอการไหลบาของน้ําที่ผิวดิน และยังสามารถใชน้ําเสริมในการ
เพาะปลูก
4) นํามาตรการการอนุรักษดินและน้ํามาใช เชน การปลูกพืชเปนแถวขวางความลาดเทของพื้นที่
และการปลูกพืชตระกูลถั่วแซมพืชหลัก เปนตน
8.1.2 ปญหาดินขาดธาตุอาหารพืชบางอยาง และดินขาดความชื้นในบางชวง
1) ใสปุยหมัก หรือปุยคอกอัตรา 1.5-2.0 ตัน/ไร หรือปลูกปุยพืชสดแลวไถกลบลงดินเมื่อปุยพืชสด
ออกดอกไดประมาณ 50 เปอรเซ็นต
2) ปลูกพืชตระกูลถั่วสลับกับพืชไรหลัก หรือปลูกพืชตระกูลถั่วแซมกับพืชหลัก จะชวยรักษาและ
เพิ่มความอุดมสมบูรณใหแกดิน และยังชวยเพิ่มความสามารถในการอุมน้ําของดินดวย
3) ใสปุยเคมี สูตร อัตรา และวิธีการใชขึ้นอยูกับชนิดของพืช รวมกับผลการวิเคราะหดินในตารางที่
36.5

