Page 139 - รายงานการจัดการทรัพยากรดินเพื่อการปลูกพืชเศรษฐกิจหลักตามกลุ่มชุดดิน เล่มที่ 1 ดินบนพื้นที่ราบต่ำ
P. 139
125
6.4 การจัดการเพื่อปองกันการชะลางพังทลาย เนื่องจากในพื้นที่ซึ่งมีความลาดชันสูง มีการชะ
ลางพังทลายของดินอยางรุนแรง เปนเหตุใหความอุดมสมบูรณของดินลดลง เนื่องจากอินทรียวัตถุและ
อนุภาคดินเหนียวในดินบน ซึ่งมีบทบาทสําคัญในการดูดซับธาตุอาหารพืช ไดถูกพัดพาลงสูที่ต่ํา จึงควร
จัดการอนุรักษดินและน้ําดวยวิธีการที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เชน 1) การไถพรวน หรือการปลูกพืชตาม
แนวระดับขวางความลาดชันของพื้นที่ 2) ทํารองระบายน้ํา ตลอดจนมีมาตรการชะลอความเร็วของการไหล
บาของน้ําบนผิวดิน และ 3) ในบริเวณที่มีความลาดชันสูง ควรทําขั้นบันไดและปลูกพืชคลุมดิน เพื่อปองกัน
การชะลางพังทลายของผิวหนาดิน ทั้งในชวงที่ปลูก และหลังจากการเก็บเกี่ยวพืชแลว
7. ขอเสนอแนะ
กลุมชุดดินที่ 26 มีศักยภาพเหมาะสมในการปลูกพืชไร ไมยืนตน ไมผล และพืชผักตางๆ หรือ
พัฒนาเปนทุงหญาเลี้ยงสัตว แตไมเหมาะสมในการทํานา เนื่องจากพบในสภาพพื้นที่เปนลูกคลื่นลอนลาด
เล็กนอยถึงลูกคลื่นลอนชัน ดินมีการระบายน้ําดี ระดับน้ําใตดินอยูลึก ดินมีศักยภาพเหมาะสมในการปลูก
พืชไรหลายชนิด เชน ถั่วตางๆ ขาวโพดหวาน แตงโม สับปะรด กลวย มะละกอ พืชผักตางๆ ตลอดจนไมยืน
ตน เชน ยางพารา ปาลมน้ํามัน มะพราว มะมวงหิมพานต กาแฟ โกโก สะตอ ไมโตเร็ว ไมผล เงาะ ทุเรียน
มังคุด ลองกอง และขนุน ควรมีการพัฒนาแหลงน้ําเพื่อใชในการเพาะปลูกในฤดูแลง อยางไรก็ตาม เพื่อให
การใชประโยชนกลุมชุดดินนี้มีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลสูงสุด ควรจัดระบบการใชที่ดินแบบ “ไรนา
สวนผสม” โดยมีการแบงพื้นที่การใชประโยชนที่ดินออกเปนสวนๆ ดังนี้
7.1 พื้นที่ปลูกพืชลมลุก เพื่อปลูกพืชไรอายุสั้น ไมดอกหรือพืชผักตางๆ
7.2 พื้นที่ปลูกไมผลหรือไมยืนตน เพื่อปลูก กาแฟ โกโก สะตอ ไมโตเร็ว ไมผล เงาะ ทุเรียน มังคุด
ลองกอง ขนุน หรือไมผลอื่นๆ
7.3 พื้นที่พัฒนาแหลงน้ํา ควรอยูระหวางพื้นที่ปลูกพืชไร ไมผล และพืชผักตางๆ ไมควรเปนที่ลุม
และดอนจนเกินไป ขนาดของแหลงน้ําที่จะพัฒนานั้น ควรเปนขนาดแหลงน้ําประจําไรนา คือ มีความจุ
3
ประมาณ 1,250 ม. สวนจํานวนสระน้ําขึ้นอยูกับปริมาณความตองการน้ําของกิจกรรมตางๆ นอกจากนี้ยัง
ควรใชประโยชนแหลงน้ําในการเลี้ยงปลาที่เลี้ยงงาย โตเร็ว และเปนที่ตองการของตลาด สําหรับบริเวณคัน
ดินรอบบอหรือสระน้ําควรใชเปนที่ปลูกไมผล เชน มะมวง ขนุน ฝรั่ง กลวย ฯลฯ และไมดอก และไมประดับ
ตางๆ เพื่อใหเกิดรายไดเสริมอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ บริเวณคันดินรอบบอควรมีการปลูกหญา เชน หญา
แฝกทั้งดานในและดานนอกเพื่อปองกันการกัดเซาะดินบริเวณคันดินดวย
7.4 พื้นที่เลี้ยงสัตว นอกจากการเลี้ยงปลาในแหลงน้ําแลว ยังควรใชพื้นที่ใกลแหลงน้ําในการเลี้ยง
ไก หมู และเปด โดยสรางเปนโรงเรือนใกลขอบบอ แลวใหสัตวเลี้ยงถายมูลลงในบอน้ําเปนอาหารปลา ซึ่งจะ
ชวยลดคาใชจายดานอาหารปลาไดสวนหนึ่ง

