Page 43 - คู่มือการสำรวจดิน
P. 43
30.2 วิธีการจําแนกเนื้อดิน
การแยกเนื้อดินเมื่อทําการสํารวจดิน โดยมากเราอาศัยการสัมผัสดวยมือ เพราะเปนวิธีที่รวดเร็วและมีความ
ถูกตองพอควร แตการใชความรูสึกเมื่อสัมผัสดินนี้จะตองมีการฝกฝนหรือมีความชํานาญอยูบางแลว ซึ่งมีหลักสังเกตได
ดังนี้
1. การใชความรูสึกเมื่อสัมผัส (feel method) อาศัยหลักดังนี้
Sand : จะรูสึกสากมือ เนื้อดินไมเกาะตัวกัน จะเห็นเม็ดทรายอาจจะบีบไดเมื่อเปยก แตเมื่อกระทบเขาจะ
แตกหมด
Sandy loam : ประกอบดวยทรายเปนสวนใหญ แตจะมีดินทรายแปงและดินเหนียวปนบาง ทําใหเกิด
ความเหนียวขึ้น การเกาะตัวดีกวาดินทรายและพอมองเห็นเม็ดทรายได มีการเกาะตัวดี พอควรเมื่อมีความชื้น และจะ
แตกเมื่อออกแรงบีบเล็กนอย
Loam : เปนดินที่มีอัตราสวนของ sand, silt และ clay เกือบเทากัน เวลาบี้จะรูสึกสากมือเล็กนอย มีความ
เหนียวพอควร ถาปนเมื่อเปยกจะคงรูปอยูไดไมแตก
Silt loam : เปนดินที่มีทรายละเอียดพอประมาณ มีดินเหนียวเล็กนอย มีดินทรายแปงประมาณครึ่งหนึ่ง
เมื่อแหงจะแข็งเปนกอน ถาบี้ใหแตกจะคลายฝุนแปง มีลักษณะลื่นและออนนุม แตไมสามารถจะทําเปนแผนบางๆ
คลายริบบิ้นได
Silt : เปยกจะลื่นและเนียนมือ รูสึกเหนียวนอยกวาดินเหนียว
Clay loam : มีเนื้อดินละเอียด จะแข็งเมื่อแหงและมักจะเปนกอน ในสภาพชื้นจะทําริบบิ้นได แตลื่นกวา
พวกดินเหนียว สามารถปนเปนรูปตางๆ ไดและไมรูสึกสากมือ
Sandy clay loam : เมื่อแหงจะแข็งเหมือนกับ clay loam แตรูสึกสากมือเมื่อเปยก ปนเปนรูปรางได แตไม
คอยคงทน
Silty clay loam : เมื่อดินชื้นคลาย clay loam แตมีความรูสึกเนียนและนุมมือกวา ปนเปนรูปรางได
Sandy clay : รูสึกเหนียวและสากมือ เมื่อแหงจะแข็งมาก มีความเหนียวมากเมื่อเปยก
Clay : มีเนื้อละเอียดมาก จับเปนกอนแข็งเมื่อแหง และจะเหนียวเมื่อเปยก สามารถทําเปนริบบิ้นได
สามารถปนเปนรูปรางได แตดินที่มีพวก Kaolinite มาก จะไมเหนียวติดมือ
2. การทําเปนแผนบางๆ (Ribbon method) โดยอาศัยความเหนียวของดิน (Plasticity) เมื่ออยูในสภาพที่ชื้น
หรือเปยก เอาดินมาทําเปนแผนหนาประมาณ 1-2 มม. แลวสังเกตดูวาจะทําใหเปนแผนบางๆ ไดยาวแคไหน
ถาเปนดินทรายจะทําเปนแผนบางๆ ไดยาวไมเกิน 1 ซม.
ถาเปนดินทรายแปงจะทําเปนแผนบางๆ ไดยาวไมเกิน 1-3 ซม.
ถาเปนดินเหนียวจะทําเปนแผนบางๆ ไดยาวไมเกิน >3 ซม.
36