Page 41 - เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจข้าวนาปรัง
P. 41
2-27
ความแหงแลงปนี้จะรุนแรงกวาปที่ผานมามาก สําหรับสถานการณความแหงแลง พบวา ตั้งแตปลาย
เดือนกันยายน 2547 เกิดสภาวการณทางธรรมชาติฝนทิ้งชวงเร็วกวาปกติ ทําใหสถานการณความแหงแลง
ปนี้ทวีความรุนแรงมาก และสงผลใหเกิดความแหงแลงครอบคลุมพื้นที่ในทุกภาคของไทย
โดยเฉพาะทําความเสียหายในภาคการเกษตร จากการสํารวจจนถึงเดือนมีนาคม 2548 พบวา
ผลกระทบทําใหผลผลิตการเกษตรลดลงรอยละ 16.6 จากระยะเดียวกันของป 2547 โดยผลผลิตพืช
ไดรับผลกระทบมาก ไดแก ขาว ออยโรงงาน มันสําปะหลัง และไมผล และสงผลใหมีพื้นที่ประสบภัยแลง
แลว 66 จังหวัด พื้นที่การเกษตรเสียหาย 13,704,675 ไร มูลคาความเสียหาย 7,410,787,165 บาท
ในการนี้ หนวยงานที่เกี่ยวของไดกําหนดมาตรการเรงดวน ใหเกษตรกรที่ตองใชน้ําจากลุมน้ํา
เจาพระยาตอนลาง งดการปลูกขาวนาปรังครั้งที่ 2 โดยเด็ดขาด สวนเกษตรกรที่ตองใชน้ําจาก
อางเก็บน้ําที่อยูในขั้นวิกฤติ 6 อางดังกลาว ใหงดปลูกพืชฤดูแลง
สวนสถานการณน้ําในเขื่อนในชวงตนฤดูแลงป 2548 พบวา สวนใหญปริมาณน้ําอยูใน
ระดับปานกลางถึงต่ํามาก คือ ภาคเหนือเขื่อนภูมิพลมีน้ํารอยละ 32.9 เขื่อนสิริกิติ์ มีน้ํารอยละ
57.8 รวมปริมาณน้ําใชงาน 7,119 ลานลูกบาศกเมตร ซึ่งฤดูแลงปนี้ทางการตองสงน้ําใหพื้นที่
ชลประทานอีก 3,225 ลานลูกบาศกเมตร ใหเพียงพอตอการปลูกพืชฤดูแลงในพื้นที่โครงการ
ใหญ เชน โครงการพิษณุโลก สวนภาคตะวันออกเฉียงเหนือปริมาณน้ําอยูในเกณฑคอนขางต่ํา
ถึงต่ํามาก โดยน้ําในเขื่อนอุบลรัตน มี 609 ลานลูกบาศกเมตร สวนเขื่อนสิรินธร มีปริมาณน้ํา
คงเหลือ 483 ลานลูกบาศกเมตร ที่เขื่อนลําปาว จังหวัดกาฬสินธุ น้ําในเขื่อนลําปาวปนี้มี
ปริมาณต่ําสุดในรอบ 6 ป เหลือน้ําอยูเพียงรอยละ 35 หรือประมาณ 500 ลานลูกบาศกเมตร แตยัง
ปลอยน้ําใหเกษตรกรในพื้นที่โครงการจนถึงปลายเดือนเมษายน 2548 หลังจากนั้นก็จะปดการสงน้ํา
และใหเกษตรกรใชน้ําอยางประหยัด
ตอมาในชวงฤดูแลงป 2548 ปริมาณน้ํากักเก็บเพื่อใชประโยชน มีจํานวนลดลงอยางมาก
โดยปริมาณน้ําที่เหลือใชงานไดจริงในเขื่อนและอางเก็บน้ําขนาดใหญทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 24
กุมภาพันธ 2548 มีจํานวนเพียง 20,078 ลานลูกบาศกเมตร หรือรอยละ 45 ของความจุใชงานได
และลดลงเหลือเพียง 12,032 ลานลูกบาศกเมตร หรือรอยละ 27 ของความจุใชงานได ในชวงปลายฤดูแลง
ณ วันที่ 13 พฤษภาคม 2548 โดยอางเก็บน้ําหลายแหงที่อยูในภาวะวิกฤติเพิ่มขึ้น มีปริมาณน้ําใชการได
ไมเกินรอยละ 10 ของความจุกักเก็บน้ําที่ใชได โดยเฉพาะอางกระเสียวไมมีปริมาณน้ําเหลือใหใชเลย
สําหรับความเสี่ยงตอภัยแลงและการขาดแคลนน้ําในอนาคตคาดวาจะมีมากขึ้น เนื่องจากความตองการ
ใชน้ําเพิ่มขึ้น จากการเพิ่มของประชากรและกิจกรรมการผลิตทางเศรษฐกิจตางๆ โดยเฉพาะการทํานาปรัง
ซึ่งมีการใชน้ําจากแหลงกักเก็บน้ําในแตละฤดูกาลมากถึงไรละ 2,000 ลูกบาศกเมตร ขณะที่
การกอสรางแหลงกักเก็บน้ํา เพิ่มเติมโดยเฉพาะขนาดใหญมีขอจํากัดจากลักษณะภูมิประเทศและ
เขตการใชที่ดินพืชเศรษฐกิจขาวนาปรัง สํานักสํารวจดินและวางแผนการใชที่ดิน