Page 15 - การศึกษาประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ปุ๋ยชีวภาพสำหรับนาข้าวต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตข้าวสังข์หยด จังหวัดพัทลุง
P. 15

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

                                                                                                         5



                       (Gyaneshwar et al., 2001), Herbaspirillumseropedicae และ Burkholderia spp. (Baldani et

                       al.,2001)  สงผลใหน้ําหนักของผลผลิตของขาวเพิ่มขึ้นมากกวาตํารับควบคุม และมีการพบ
                       Pantoeaagglomerans YS19 สามารถตรึงไนโตรเจนในอาหาร N free medium และผลิตฮอรโมน

                       พืช (ออกซิน กรดแอบไซซิก จิบเบอเรลลิน ไซโตไคนิน) สงเสริมการเจริญเติบโตของพืชอาศัยได (Feng,

                       2006)  นอกจากนี้ยังมีการใชเอนโดไฟติกแบคทีเรียเพื่อยับยั้งจุลินทรียสาเหตุโรคในขาวและพืชอื่นๆ
                       (Mukhopadhyay et al., 1996; Padgham et al., 2005)


                                  พันธุขาวไวตอชวงแสง  เปนพันธุขาวที่ตองการชวงแสงหรือชวงระยะกลางวันสั้น  เพื่อ

                       เปลี่ยนการเจริญเติบโตทางลําตนและใบมาเปนการเจริญทางสืบพันธุ  เพื่อสรางชอดอกและเมล็ด
                       พันธุขาวชนิดนี้จะกําเนิดชอดอกเมื่อมีชวงแสงสั้นกวา 12 ชั่วโมง ความตองการชวงแสงของขาวแตละ

                       พันธุแตกตางกัน  ทําใหขาวออกดอกไมพรอมกัน พันธุขาวไวตอชวงแสงมีตนสูง มีการแตกกอนอย การ
                       ตอบสนองตอปุยโดยเฉพาะปุยไนโตรเจนต่ํา ใหผลผลิตสูงสุดไดต่ํา และมีการตานทานตอโรคและแมลง

                       นอย   (อรพิน, 2547)

                                  ขาวสังขหยด  เปนขาวพันธุพื้นเมืองในภาคใต  เก็บจากอําเภอเมือง  จังหวัดพัทลุง

                       ดังนั้นจึงเปนพันธุขาวพื้นเมืองที่ปลูกกันมานานไมต่ํากวา 50 ป และปจจุบันยังคงมีปลูกอยูทั่วไปใน
                       จังหวัดพัทลุง และบางจังหวัดใกลเคียง  ในป พ.ศ. 2543  สมเด็จพระนางเจาฯพระบรมราชินีนาถ  ทรง

                       มีพระราชดํารัสตั้งโครงการฟารมตัวอยางตามพระราชดําริจังหวัดพัทลุง  ขึ้นที่อําเภอบางแกว  โดยมี
                       สถานีพัฒนาที่ดินพัทลุงเปนเลขานุการคณะทํางานศูนยวิจัยขาวพัทลุง  ซึ่งไดรับมอบหมายใหรับผิดชอบ

                       แปลงนาในโครงการฯ จึงไดดําเนินการปลูกขาวพันธุพื้นเมืองตางๆ ไดแก พันธุขาวสังขหยด พันธุหัวนา

                       พันธุหอมจันทร และพันธุนางพญา 132 ในวันที่  24 กันยายน พ.ศ. 2546  ศูนยวิจัยขาวพัทลุง  ไดมี
                       โอกาสถวายขาวสังขหยดแดสมเด็จพระนางเจาฯพระบรมราชินีนาถ  ซึ่งตอมาพระองคทรงโปรดที่จะ

                       เสวยตลอดมา  และศูนยวิจัยขาวพัทลุง  ไดปลูกพันธุขาวสังขหยดในแปลงนาโครงการฯ ตลอดมาทุกป
                       ตอมาจังหวัดพัทลุงไดกําหนดใหพันธุขาวสังขหยดเปนพันธุขาวประจําจังหวัด  มีเปาหมายสงเสริมการ

                       ผลิต เพื่อเปนเอกลักษณของจังหวัดตลอดไป

                                  ขาวพันธุสังขหยด  มีลักษณะแตกตางจากขาวโดยทั่วๆ ไป คือ มีลักษณะของขาวสารหรือ

                       ขาวกลองที่เยื่อหุมเมล็ดมีสีขาวปนสีแดงจางๆ จนถึงแดงเขมในเมล็ดเดียวกัน  และขาวเมื่อหุงสุกแลวมี
                       ลักษณะนิ่มมากคอนขางเหนียว ลักษณะเดน เปนพันธุขาวที่มีลักษณะเยื่อหุมเมล็ดสีแดงเขม เมล็ดเล็ก

                       เรียว เมื่อหุงเปนขาวสุกมีความนุมรสชาติมันอรอย โดยเฉพาะในลักษณะขาวซอมมือ หรือขาวกลองที่

                       ขัดสีปานกลาง คุณคาทางโภชนาการ มีสารอาหารเมื่อเปรียบเทียบกับขาวเล็บนกปตตานี ที่สูงกวา
                       ไดแก   โปรตีน วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ฟอสฟอรัส และโดยเฉพาะไนอาซิน ซึ่งสูงกวาอยางชัดเจนโดย

                       มีมากกวา  66 เปอรเซ็นต สวนสารอาหารอื่น ไดแก ไขมัน กากเยื่อใย เถา และเหล็ก ก็มีปริมาณ
                       คอนขางสูง พื้นที่แนะนํา คือพื้นที่นาดอนที่ปลูกขาวนาป จังหวัดพัทลุง และจังหวัดใกลเคียง ขอควร

                       ระวังหรือหรือขอจํากัด  ไมตานทานโรคไหม (ศูนยวิจัยขาว,2548)
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20